01 ตุลาคม 2552

ยังไม่จบกับ ballot screen บนวินโดวส์ 7 ในยุโรป

  • ดูท่าจะยังไม่จบกับกรณื ballot screen บนวินโดวส์ 7 ที่จะวางขายในทวีปยุโรป (ดูข่าวเก่า: ไมโครซอฟท์ยอมให้มี ballot screen ในวินโดวส์ 7 E) โดยคุณ Thomas Vinje ทนายของโอเปร่าและหน่วยงาน European Committee for Interoperable Systems (ECIS)องค์กรที่ไม่หวังผลกำไร ส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างระบบที่ต่างกันและเงื่อนไขทางตลาดของ ICT เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรีและลูกค้ามีทางเลือก (ซึ่งโอเปร่าเป็นสมาชิกด้วย) ได้ออกมาพูดผ่าน Wall Street Journal หลังจากตรวจสอบข้อเสนอ ballot screen จากทางไมโครซอฟท์ว่า "การที่ผู้ใช้งานต้องยืนยัน ตอบคำถาม และงงกับการแจ้งเตือนมากมายก่อนที่จะดาวน์โหลดและติดตั้งเบราว์เซอร์ได้ เหมือนว่าสิ่งที่จะเพื่อให้ผ่านคณะกรรมการ EC เท่านั้น แต่ใช้การไม่ได้จริง"
    นอกจากนั้นเขายังได้แนะนำว่าแทนที่จะให้ทางเลือกติดตั้งเบราว์เซอร์อื่นผ่าน ballot screen ก็ให้อินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์ยังคงมีอยู่ได้ แต่ให้มีวิธีการที่ให้อินเทอรเน็ตเอกซ์พลอเรอร์ใช้การไม่ได้ แบบนี้ ballot screen น่าจะติดตั้งเบราว์เซอร์อื่นเข้าไปง่ายกว่าให้ผู้ใช้เลือกเพียงเบราว์เซอร์เดียว แล้วก็ควรทำให้ใช้งานง่าย อาทิ คลิกเพียงไม่กี่คลิกเท่านั้นก็สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งเบราว์เซอร์อื่นได้
    Internet Explorer would remain turned on and that only an additional procedure would allow the user to deactivate IE. So the ballot screen is simply installing another browser in addition to IE rather than offering users a choice of a single browser.
    ส่วนทางมอซิลล่าพูดผ่านบล็อกของที่ปรึกษาของบริษัท คุณ Harvey Anderson ซึ่งเขียนขึ้นเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ว่า ballot screen ตามข้อเสนอยังไม่ดีพอ โดยเขาแนะนำว่าเมื่อโปรแกรมของไมโครซอฟท์จะเปิดเบราว์เซอร์ก็ควรเปิดเฉพาะเบราว์เซอร์ที่ผู้ใช้เลือกเป็นค่าปริยาย (default) ไว้เท่านั้น นอกจากนั้นเขายังมีความกังวลถึง ballot screen เองว่า อาจทำให้อินเทอร์เน็ตเอกซ์พลอเรอร์กลายเป็นเบราว์เซอร์หลักโดยปริยายซะเอง หากผู้ใช้ปฏิเสธหรือไม่รู้จะใช้มันอย่างไร หรือมีปัญหาในระหว่างการติดตั้งเบราว์เซอร์อื่น และท้ายสุดเขายังบอกว่า ballot screen ไม่ได้ให้ข้อมูลว่าเบราว์เซอร์แต่ละค่ายนั้นแตกต่างกันอย่างไร
    ที่มา: http://www.blognone.com

"แฮนด์ฟรี+จีพีเอส"สำหรับนักปั่น!!!

  •  ด้วยความที่ iPhone 3GS มีลูกเล่นของคุณสมบัติการทำงานมากมาย ทำให้นักประดิษฐ์หัวใสชาวญี่ปุ่นเกิดปิ๊งไอเดียนำมันมาดัดแปลงให้สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์อีกสองสามชิ้น และพัฒนาเป็นระบบนำทางเคลื่อนที่สำหรับนักปั่นจักรยาน โดยใช้ชื่อเรียกว่า "iPhone ARider" สุดยอด!!
iPhone ARider เป็นโปรเจ็กต์ที่ทีมงานทดลองทำขึ้น โดยมีองค์ประกอบที่สำคัญคือ iPhone 3GS และ"หน้าจอแสดงผลขนาดเล็ก" ที่มากับวิดีโอพกพาชนิดสวมใส่ศีรษะ (HMD: Head-Mounted Display) โดยตำแหน่งของจอจิ๋วจะอยู่ในตำแหน่งด้านหน้าตรงกับดวงตาพอดี (ในที่นี้ใช้รุ่น T3-A จากบริษัท Scalar Corporation) ทำให้ภาพที่ปรากฎตรงหน้ามีขนาดใหญ่มาก มองเห็นได้ชัดเจน
อุปกรณ์ทั้งสองจะถูกติดเข้ากับหมวกกันน็อค เพื่อใช้เป็น GPS นำทางให้กับนักปั่น ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถปั่นไปได้ทั่วเมื่องโดยไม่ต้องห่วงเรื่องหลงทางนั่นเอง โดยนอกจากจะทำหน้าที่เป็น GPS แล้ว มันยังทำหน้าที่เป็นโทรศัพท์ที่สามารถรับสายแบบแฮนด์ฟรีผ่านทางบลูทูธได้อีกด้วย ยังไม่หมดนะครับ มันยังสามารถเชื่อมต่อกับ Twitter ผ่านทาง TwitBird Pro สำหรับ iPhone เพื่อแจ้งข้อความที่ได้รับได้อีกด้วย
ในกรณีทีใช้ GPS เมื่อคุณหันศีรษะไปทางไหน แผนที่ที่ปรากฎในหน้าจอขนาดเล็กที่อยู่ตรงหน้าก็จะเคลื่่อนทีตามไปด้วย จุดเด่นของระบบนี้ก็คือ คุณไม่ต้องละสายตาจากถนน เพื่อมองไปยังแผนที่บนหน้าจอไอโฟน แต่สามารถมองผ่านหน้าจอจิ่วได้ทันทีนั่นเอง ว่าแต่ ฟังแล้ว คุณผู้อ่านอยากลองใช้งานระบบ่แบบนี้บ้างไหมครับ? สำหรับผู้สนใจรายละเอียดของโปรเจกต์คลิกที่นี่ ส่วนคลิปข้างล่างนี้จะเป็นการสาธิตการใช้งานบนถนนในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ที่มา:http://www.arip.co.th/2006/news.php?id=410036


หุ่นยนต์แปลงร่างเป็นรถ+อุ้มคนได้ด้วย

  •  เช้านี้ขอเริ่มต้นด้วยรายงานข่าวแก็ดเจ็ต (Gadget) จากประเทศญี่ปุ่นกันก่อนเลยนะครับ สำหรับชิ้นนี้เป็นฮิวแมนอยด์ที่มีขนาดตัวสูงเท่าๆ กับเด็กประถมเลยทีเดียว โดยมันมีความพิเศษกว่าหุ่นยนต์ตัวอื่นๆ ที่เคยแนะนำมาก็ตรงที่มันสามารถนอนราบกับพื้น เพื่่อเคลื่อนที่ด้วยล้อได้ ไม่เพียงเท่านั้นมันยังสามารถแปลงร่าง เพื่อยกตัวผู้สร้างขึ้น และเดินได้อีกด้วย...ว้าว!!!
ตอนเห็นเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้พยายามทำตัวเหมือนรถยนต์ทำให้อดนึกถึงการ์ตูนคลาสสิกเรื่อง Turbo Teen ที่พระเอกในท้องเรื่องถูกเครื่องรวมร่างเข้ากับรถซิ่ง เพราะฉะนั้นเขาสามารถแปลงร่างเป็นรถยนต์รุ่น Firebird ได้เมื่อต้องการ อืม...โม้ยิ่งกว่าทรานสฟอร์เมอรส์ (Transformers) อีกนะครับเนี่ย สำหรับใครที่ไม่คุ้นลองดูคลิปข้างล่างนี้ก็ได้ครับ










แต่สำหรับเจ้า OmniZero.9 ของนายทาเคชิ มาเอดะ ไม่เพียงแต่จะสามารถนอนราบกับพื้น เพื่อใช้ล้อขนาดใหญ่ที่หัวไหล่ทั้งสอง และล้อขนาดเล็กที่หัวเข่าในการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วแบบรถยนต์แล้ว มันยังสามารถแปลงร่าง เพื่อยกตัวผู้สร้างขึ้น และเดินได้อีกด้วย โดยส่วนลำตัวถึงหัวของมันยังสามารถเปิดขึ้น 90 องศาจมีลักษณะคล้ายเก้าอี้ OmniZero.9 จะย่อเข่าลง เพื่อให้เจ้าของสามารถขยับบั้นท้ายขึ้นไปนั่งบนตัวมันได้อย่างง่ายดาย จากนั้นมันจะยกตัวเจ้าของด้วยการยืนขึ้น และทรงตัวเดินได้เล็กน้อย แม้จะไม่ใช่ก้าวที่ยิ่งใหญ่ แต่ก็ต้องขอชมว่าได้ใจไปเต็มๆ สำหรับไอเดียการสร้างหุ่นยนต์ที่แฝงไอเดียไว้มากมายเช่นนี้ สำหรับ OmniZero.9 นอกจากจะสาธิตความสามารถดังกล่าวแล้ว มันยังมีภารกิจที่ต้องต่อสู้กับหุ่นยนต์ต่างๆ ในงาน ROBO-ONE ที่จัดขึ้นในญ๊่ปุ่นอีกด้วย!!!


ก่อนหน้านี้ในงาน ROBO-ONE ที่จัดขึ้นเมื่อปี 2007 ทาเคชิได้เคยพัฒนาหุ่นยนต์ OmniZero.4 ที่มีขนาดตัวเล็กกว่า แต่มีมือก้ามปูที่ทรงพลัง สามารถปีนไดลิง การกระโดดเชือก และพยายามตอกไข่ใส่ขันให้อึ้งไปตามๆ กันได้อีกด้วย



ที่มา:http://www.arip.co.th/2006/news.php?id=410045

เตือน!!! แอนตี้ไวรัสของ MS ไม่ปลอดภัย

  •  รายงานข่าวล่าสุด ไซแมนเทค (Symantec) บริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยชั้นนำออกมาเตือนผู้ใช้ว่า Microsoft Security Essentials (MSE) แอนตี้ไวรัสที่ไมโครซอฟท์เปิดให้ดาวน์โหลดไปติดตั้งใช้งานได้ฟรีตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา อาจทำให้พีซีของผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยง แถมยังระบุอีกว่า แอนตี้ไวรัสแจกฟรีอย่าง AVG และ Avast ยังดีกว่าอีกด้วย
รายงานข่าวที่ออกมาดูเหมือนไซแมนเทคจะรู้สึกร้อนรนกับผลกระทบอันเกิดจากการเปิดให้ดาวน์โหลดฟรีสำหรับ Microsoft Security Essentials ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสของไมโครซอฟท์ เนื่องจากทางบริษัทเกรงว่าโปรแกรม MSE จะทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงต่อภัยคุกคามบนอินเทอร์เน็ตมากขึ้น โดยอ้างว่า ซอฟต์แวร์ดังกล่าวไม่ได้มีระบบป้องกันที่เพียงพอ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดคิดว่า เพียงแค่นี้เครื่องของพวกเขาก็มีความปลอดภัยแล้ว
Mike Plante ผู้อำนวยการอาวุโสจากไซแมนเทค กล่าวโจมตีว่า "ไมโครซอฟท์กำลังทำให้ผู้บริโภคตกอยู่ในความเสี่ยง(มากขึ้น) เนื่องจาก MSE ไม่สามารถป้องกันการบุกรุกของมัลแวร์ได้มากมาย ซึ่งนั่นเท่ากับไมโครซอฟท์กำลังเปิดทางให้อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ในรูปแบบต่างๆ สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น" ทั้งนี้ผู้บริหารไซแมนเทคแสดงความกังวลว่า ผู้บริโภคจะไม่ได้ตระหนักถึงความปลอดภัยทีมากพอ เพื่อไม่ให้ต้องเผชิญหน้ากับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นตามมา เขายังเชื่ออีกว่า ผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์มีประสิทธิภาพในการป้องกันภัยคุกคามบนเน็ตได้น้อยกว่าแอนตี้ไวรัสแจกฟรีอย่างเช่น AVG และ Avast เสียด้วยซ้ำ "หากเปรียบเทียบการทดสอบประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสของไมโครซอฟท์ เมื่อครั้งยังเรียกผลิตภัณฑ์ตัวนี้ว่า OneCare ผลลัพธ์ที่ได้ยังสู้ฟรีแวร์อื่นๆ ไม่ได้เลย" อย่างไรก็ตาม ทางด้านไมโครซอฟท์ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า MSE ที่เปิดให้ดาวน์โหลดตั้งแต่เมื่อวานนี้ไม่มีความปลอดภัยที่เพียงพอ
ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่า ไมโครซอฟท์พยายามเติมเต็มผลิตภัณฑ์รุ่นล่าสุด โดยสามทหารเสือของผลิตภัณฑ์ก็จะประกอบด้วย Windows 7, IE8 และ Microsoft Seurity Essentials ความจริงโอเอสรุ่นใหม่ๆ ของไมโครซอฟท์จะมาพร้อมกับ Windows Defender ในตัวอยู่แล้ว เมื่อรวมกับคุณสมบัติของระบบรักษาความปลอดภัยใน IE8 และเพิ่มปราการเข้าไปอีกชั้นด้วย MSE ซึ่งก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดซอฟต์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยนั่นเอง ข้อมูลวิจัยจากการ์ทเนอร์เมื่อเดือนมิถุนายนเปิดเผยว่า ไมโครซอฟท์มีโอกาสที่จะเปลี่ยนใจผู้บริโภคให้หันกลับมาใช้ซอฟต์แวร์ระบบรักษาความปลอดภัยของทางบริษัทได้ แต่ทั้งนี้ก็อาจล้มเหลวได้เหมือนกัน หากไม่สามารถช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดผู้ใช้มาเป็นของตนให้ได้อย่างน้อย 20% ภายในสองปี

ที่มา:http://www.arip.co.th/news.php?id=410055

เน็ตบุ๊ก"Chrome OS"ออกตุลาคมนี้

  •  รายงานข่าวทีว่า กูเกิ้ล (Google) กำลังพัฒนาระบบปฏิบัติการทีมีชื่อว่า Google Chrome OS ไม่ได้เป็นความลับแต่อย่างใด ซึ่งในขณะที่ทางบริษัทได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ว่า โอเอสดังกล่าวจะเปิดให้นักพัฒนาได้พรีวิวในช่วงปลายปีนี้ และจะไม่ปรากฎในอุปกรณ์ใดๆ จนกว่าจะถึงปี 2010 แต่ล่าสุดรายงานข่าวจาก Shanzai.com เว็บไซต์ในจีนเปิดเผยว่า อุปกรณ์ที่รัน Chrome OS จะเริ่มวางตลาดกลางเดือนตุลาคมนี้ (ตัดหน้าวันเปิดตัว Windows 7)
อย่างไรก็ตาม กูเกิ้ลยังไม่ได้เปิดเผยชัดเจนว่า ทางบริษัทจะปล่อยเวอร์ชันทดสอบตัวแรกออกมาเมื่อไร? แต่การทีมีข่าวออกมาเช่นนี้ดูน่าจะเป็นการปล่อยข่าวตัดหน้าขโมยซีน Windows 7 มากกว่า เนื่องจากผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่จะยังไม่สามารถเริ่มจำหน่ายอุปกรณ์ต่างๆ ที่ทำงานด้วยโอเอสตัวนี้ได้ก่อนการทดสอบจะเสร็จเรียบร้อย
แต่ข่าวในเว็บไซต์ Shanzai.com อ้างว่า Chrome OS จะสามารถติดตั้งให้ทำงานบนคอมพิวเตอร์ที่มาพร้อมกับซีพียูของจีนอย่าง Loongson 2F ซึ่งใช้กับเน็ตบุ๊ก Emtec Gdium Liberty และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้แล้ว โดยซีพียูตัวนี้เป็นของบริษัท Academy of Sciences ในประเทศจีน เนื่องจากซีพียูตัวนี้ไม่ได้อยู่ในตระกูล x86 ดังนั้นมันจึงไม่สามารถรัน Windows ได้ แต่จะสามารถทำงานบนระบบปฏิบัติการ Linux หรือโอเอสทางเลือกอื่นๆ ซึ่ง Google Chrome OS ดูจะเหมาะสมมากที่สุด
ทางเว็บไซต์ Shanzai.com รายงานว่า อุปกรณ์ที่ทำงานด้วย Chrome OS จะสามารถเริ่มวางจำหน่ายในท้องตลาดได้ช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ โดยคาดว่าจะเป็นเน็ตบุ๊กสำหรับอุปกรณ์ตัวแรกที่ออกมา อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวนี้จะชัวร์ หรือมั่วนิ่มคงต้องรอติดตามความคืบหน้ากันต่อไป

ที่่มา:http://www.arip.co.th/news.php?id=410056


Google Wave ของเล่นใหม่จากูเกิ้ล

  •  เชื่อว่า คุณผู้อ่านอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวของ Google wave มาบ้าง แต่ก็ยังไม่เคยได้เห็นหน้าตาของมันสักที ยังความสงสัยให้เหลือกำลังว่า เจ้า Google Wave ที่ว่านี้มันทำอะไรกันแน่ ล่าสุดทางกูเกิ้ลได้จัดทำคลิปวิดีโอแนะนำเบื้องต้นสำหรับการทำงานของเครื่องมือออนไลน์ตัวใหม่นี้แล้ว
กูเกิ้ล เวฟ (Google Wave) เป็นเครื่องมือออนไลน์สำหรับการสื่อสารแบบเรียลไทม์ (communication) และการทำงานร่วมกัน (collaboration) ของกูเกิ้ล โดยการทำงานพื้นฐานของเครื่องมือดังกล่าว มันจะทำหน้าทีเป็นไคลเอ็นต์สำหรับการใช้บริการข้อความ (messaging) ที่ผู้ใช้สามารถใส่สื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร, วิดีโอ และรูปภาพเข้าไปได้โดยตรงระหว่างที่ทำการสนทนากับสมาชิกในกลุ่มได้ (ดูเหมือนมันจะเป็น IM ที่เก่งมาก โดยสามารถสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแชร์สื่อบอกเล่าเก้าสิบกับกลุ่มผู้ใช้ในเครือข่ายได้อย่างง่ายดายด้วยรูปแบบเรียลไทม์)
นอกจากแชร์สื่อข้างต้นแล้ว Google API ของบริการยังเปิดโอกาสให้สามารถแชร์ Social Gadget อย่างเลือกกลุ่มเพื่อน เพื่อชวนมาเล่นแก็ดเจ็ตที่เป็นเกมส์ด้วยกันได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย...เล่าให้ฟังอาจจะไม่เห็นภาพเท่ากับดูคลิปพรีวิวที่นำมาฝากกันนะครับ รับรองว่า คุณต้องชอบเหมือนผมอย่างแน่นอน

ที่มา:http://www.arip.co.th/news.php?id=410057


ดาวน์โหลดฟรี!!! แอนตี้ไวรัสจาก MS

  •  รายงานข่าวล่าสุด ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ยืนยันว่า จะเริ่มเปิดให้ดาวน์โหลดฟรี!!! สำหรับซอฟต์แวร์ "แอนตี้ไวรัส" (เวอร์ชันสมบูรณ์) ของทางบริษัทภายในวันนี้ หลังจากที่ได้ออกเวอร์ชันทดสอบให้ลองใช้มาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
Microsoft Security Essentials เป็นซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสของไมโครซอฟท์ที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดไปใช้งานได้ฟรี โดยซอฟต์แวร์จะอัพเดตตัวเองแบบรายวัน (daily update) เพื่อให้คอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ปลอดภัยจากมัลแวร์ใหม่ๆ ที่สามารถขโมยพาสเวิร์ด หรือเปลี่ยนพีซีของผู้ใช้ให้กลายเป็นเซิร์ฟเวอร์ส่งสแปมได้ทันท่วงที โดยไมโครซอฟท์ย้ำว่า มัน (MS Security Essentials) จะไม่ทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณทำงานช้าลง
นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังกล่าวอีกด้วยว่า การเปิดให้ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสของทางบริษัทนั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะขโมยธุรกิจจากบริษัทต่างๆ อย่าง แมคอาฟี่ (McAfee) และไซแมนเทค (Symantec) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน และมาพร้อมกับคุณสมบัติการทำงานทีมากกว่า โดยซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสที่เปิดใหดาวน์โหลดฟรีนี้จะเหมาะกับเจ้าของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ยังไม่ได้ติดตั้งแอนตี้ไวรัสไว้ภายในเครื่อง

ที่มา:http://www.rssthai.com/reader.php?t=it&r=15244

คลิปหลุด!!!ไมโครซอฟท์"แท็บเล็ต"ชุด 2



  • หลังจากที่ทางเว็บไซต์ gizmodo ได้เผยแพร่คลิปหลุด Courier booklet ของไมโครซอฟท์ (Microsoft) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฎว่า มันทำให้หลายคนตื่นตะลึงกับความสามารถของมันที่มหัศจรรย์เกินแท็บเล็ตวันนี้จะทำได้ ล่าสุดคลิปหลุดชุดที่ 2 ได้ถูกนำออกมาเผยแพร่อีกแล้ว ครั้งนี้จะเป็นการแสดงให้เห็นการทำงานของอินเตอร์เฟซที่รับรองว่า คุณจะต้องชอบอย่างแน่นอน!!
  • สำหรับคลิปวิดีโอที่หลุดออกมาเป็นชุดที่สองนี้ยังคงมาจากบริษัทผู้ผลิตรายเดิมที่จัดทำคลิปก่อนหน้านี้นั่นคือ Pioneer Studios ของไมโครซอฟท์ แต่จะเป็นมุมมองของการนำเสนอที่แตกต่างออกไปจากเดิมเล็กน้อย โดยเฉพาะการทำงานของอินเตอร์เฟซที่ดูสมจริง(และมีความเป็นไปได้)มากยิ่งขึ้น ในขณะที่คลิปชุดแรกจะแสดงให้เห็นการใช้ประโยชน์จากการใช้งานในกรณีต่างๆ คลิปชุดที่สองจะนำเสนอรายละเอียดของอินเตอร์เฟซ และคุณสมบัติการทำงานของ Courier และวิธีใช้งานในกรณีที่คุณไม่ใช่นักออกแบบ

แนวคิดของ Courier จะคล้ายกับสมุดบันทึกอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถจดข้อมูล และเก็บรูปภาพ(จากเว็บไซต์)ต่างๆ เข้าไปได้ ผู้ใช้สามารถเผยแพร่ หรือแชร์ข้อมูลเข้าสู่อินเทอร์เน็ต ตลอดจนดาวน์โหลดไฟล์ในฟอร์แมตต่างๆ เพื่อนำมาแสดงใน Courier ได้ 3 ฟอร์แมตด้วยกันคือ Courier file, Powerpoint หรือ PDF ส่วนสันของ Courier ที่อยู่ตรงกลางยังสามารถใช้เหน็บภาพ(ค้างไว้) เพื่อพลิกไปยังอีกหน้าหนึ่งของจอที่ต้องการวางภาพดังกล่าวได้อีกด้วย อินเตอร์เฟซของคลิปชุดนี้จะใช้องค์ประกอบที่คุ้นตามากกว่าคลิปชุดแรก ไม่ว่าจะเป็นฟอนต์ และไตเติ้ลบาร์ อินเตอร์เฟซอย่าง ตารางกำหนดการอัจฉริยะ ระบบแฟ้มที่สามารถให้รายละเอียดได้มากขึ้น การค้นหาครอบจักรวาล และการท่องเว็บแบบหลายหน้า (ที่ใช้นิ้วดัน เพื่อเลือกดูได้เหมือนเวลาค้นหาแฟ้มในตู้เอกสาร)


ที่มา:http://www.rssthai.com/reader.php?t=it&r=15262