แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ 3จี แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ 3จี แสดงบทความทั้งหมด

25 ธันวาคม 2552

เผย 10 เรื่องกวนใจใช้มือถือ-เน็ต

สบ ท. เปิด 10 อันดับเรื่องร้องเรียนของผู้บริโภค โวยเรื่องคุณภาพและมาตรฐานบริการมากที่สุด รองลงมาคือเรื่องค่าบริการ ส่วนการสำรวจข้อเสนอพบผู้บริโภค อยากให้ใช้อัตราค่าโทรเท่ากันทุกเครือข่าย ปีหน้าเตรียมติดตามการให้บริการ 3จี และเสนอคิดค่าบริการมือถือเป็นวินาที

นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการคมนาคม (สบท.) เปิดเผย 10 อันดับเรื่องร้องเรียนปัญหาโทรคมนาคมปี 2552 ที่เข้ามาถึง สบท. ทั้งที่มาทางโทรศัพท์ 1200 และสายตรงสบท. 02 6346000 และในรูปแบบอื่นๆ ว่า จากการประมวลของหน่วยบริการประชาชน สบท. ระหว่างเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2552 พบว่า มีเรื่องร้องเรียนทั้งหมด 1,751 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน 765 เรื่อง ซึ่งแม้เรื่องร้องเรียนจะน้อยเมื่อเทียบกับผู้ใช้บริการทั้งหมด แต่ก็เป็นจำนวนที่เพิ่มสูงขึ้นจากปี2551 ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนทั้งหมด 334 เรื่อง การรับเรื่องร้องเรียนของปีนี้จึงเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัว

เรื่องที่มีผู้ร้องเรียนปัญหาโทรคมนาคมมากที่สุดเป็นเรื่อง คุณภาพและมาตรฐานบริการถึงร้อยละ 45 ของเรื่องร้องเรียนทั้งหมด โดยอันดับสอง คือเรื่องค่าบริการผิดพลาดไม่เป็นธรรมร้อยละ 18 ตามด้วยเรื่องสิทธิความเป็นส่วนตัว วันหมดอายุของบัตรเติมเงิน การยกเลิกบริการ คิดเป็นร้อยละ 10, 8 และ 5 ตามลำดับ

โดย อันดับที่ 5 เป็นเรื่องค่าต่อคู่สายโทรศัพท์ร้อยละ 4 กรณีข้อมูลการให้บริการไม่ชัดเจน ไม่ครบ ไม่จริง ร้อยละ 3 ความปลอดภัยต่อสุขภาพร้อยละ 2 การเปลี่ยนเงื่อนไขสัญญา และการเข้าถึงการบริการ ร้อยละ 1

ทั้ง นี้ ผู้ให้บริการที่ได้ถูกร้องเรียนมากที่สุดคือ เอไอเอส จำนวน 315 ราย ทีโอที 303 ราย ฮัทช์ 302 ราย ทรูมูฟ 260 และทีทีแอนด์ที 230 ราย ดีแทค 143 ราย ทรูคอร์ป 66 ทรูดิจิทัล 57 ทริปเปิล ที อินเตอร์เน็ต 51 และ ทีทีแอนด์ทีซับสคริบเบอร์ 50 ราย

โดยผู้อำนวยการ สบท. ย้ำว่า จำนวนรายที่ถูกร้องเรียนนี้ ต้องคำนึงสัดส่วนผู้ใช้บริการในตลาดของผู้ให้บริการในแต่ละรายด้วย ซึ่งในปัจจุบันมีเอไอเอสเป็นผู้ครองตลาดผู้ให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์ เคลื่อนที่เป็นอันดับหนึ่ง
   
นอกจากนี้ ยังได้รายงานผลการสำรวจประสบการณ์ในการใช้อินเตอร์เน็ต โทรศัพท์เคลื่อนที่ และความคิดเห็นต่อการขายสินค้า/บริการผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่จากจำนวน ตัวอย่าง 4,650 ตัวอย่าง โดยจำนวนนี้เป็นตัวอย่างในต่างจังหวัดร้อยละ 90 และในพื้นที่ กทม. ร้อยละ10 พบว่า ค่าเฉลี่ยของระยะเวลาการใช้โทรศัพท์โทรออกคือ 25.8 นาทีต่อวัน ระยะเวลารับสาย 30.3 นาทีต่อวัน เฉลี่ยเป็นค่าบริการ 354.51 บาทต่อเดือน

ซึ่ง ปัญหาที่พบจากการสำรวจมากที่สุดคือ สัญญาณขาดหายหรือไม่ดีร้อยละ 56.7 มีการส่งข้อความสั้นหรือเอสเอ็มเอสเข้ามาขายของ 45 สายหลุด 38 วันหมด เงินเหลือแต่โทรออกไม่ได้ 17.5 โทรออกยาก 16.3 เปลี่ยนโปรโมชั่นโดยไม่แจ้งให้ทราบ 7.7 คิดค่าบริการผิดพลาด 7.4 ยกเลิกการใช้บริการไม่ได้ 7.1 เติมเงินแล้วไม่เข้า หรือเข้าไม่ครบ 6.8 และกรณีเงินเหลือ เติมไม่ทัน วันหมด หรือถูกตัดเงิน ร้อยละ 6.5
   
การ สำรวจยังพบด้วยว่า ในกรณีปัญหา ‘วันหมด เงินไม่หมด’ นั้น เกิดขึ้นเนื่องจากไม่ทราบระยะเวลาการใช้งานก่อนหักเงินถึงร้อยละ 84.3 โดยมีผู้บริโภคที่เคยถูกหักเงินถึงร้อยละ 13.7 มีจำนวนครั้งเฉลี่ย 3.39 ครั้ง จำนวนเงินเฉลี่ย 35.9 บาท
   
ส่วนการสำรวจข้อเสนอ 10 อันดับแรก มีผู้เสนอให้ใช้อัตราค่าโทรเท่ากันทุกเครือข่าย โดยไม่แบ่งช่วงเวลา และไม่มีอัตรานาทีแรกต่างจากนาทีถัดไปมากที่สุด รองลงมาคือ คิดอัตราค่าโทรถูกลง, โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมงทุกเครือข่าย, โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมงในเครือข่าย, จัดโปรโมชั่นให้ลูกค้าที่ใช้งานมานาน, ลดค่าบริการให้ถูกลง, ปรับปรุงคุณภาพสัญญาณ, ปรับปรุงการส่งข้อความไม่เหมาะสม, เพิ่มจำนวนวันใช้งาน, มีโปรโมชั่นใหม่ มีคำแนะนำโปรโมชั่นใหม่ และ ไม่จำกัดวันในระบบเติมเงิน
   
ด้านการ ใช้บริการอินเตอร์เน็ตนั้น จากกลุ่มตัวอย่างกลุ่มเดียวกันนี้ ซึ่งเป็นคนในต่างจังหวัดถึงร้อยละ 90 ไม่ได้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตถึงร้อยละ 89.6 โดยผู้บริโภคได้ใช้เวลานานเฉลี่ย 97.3 นาทีต่อครั้ง ค่าบริการเฉลี่ยต่อเดือน 789.24 บาทต่อเดือน  อินเตอร์เน็ตขัดข้องเดือนละ 4.55 โดยปัญหาอินเตอร์เน็ตขัดข้องนี้ สำรวจพบถึงร้อยละ 74 ของผู้ใช้บริการ พบปัญหาอินเตอร์เน็ตช้าร้อยละ 66 อินเตอร์เน็ตล่ม 57 และหลุดร้อยละ 50.5
   
ทั้ง นี้ ผู้บริโภคเสนอแนวทางแก้ไข โดยเสนอให้ควบคุมความเร็วให้ได้ตามกำหนดร้อยละ 35.9 ปล่อยสัญญาณให้แรงขึ้น 34.6 ลดค่าบริการตามความเร็วที่ได้รับจริง 14.1 มีศูนย์ให้คำปรึกษา 9.0 และกำหนดความเร็วขั้นต่อ 2M ร้อยละ 5.1

เรื่องการใช้บริการอินเตอร์ เน็ตนี้ นายประวิทย์เปิดเผยว่า ทางผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตทุกรายได้รับเรื่องร้องเรียนเหล่านี้แล้ว และแก้ปัญหาให้กับผู้บริโภคแตกต่างไป บางรายใช้วิธีเพิ่มความเร็วในอัตราค่าบริการเท่าเดิม เป็นต้น

นอกจาก นี้ ผอ.สบท. ยังเปิดเผยทิศทางการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคมในปีหน้าว่า เตรียมที่จะผลักดันให้การคิดค่าบริการโทรศัพท์โดยใช้หน่วยเป็นวินาที เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้บริโภค รวมถึงปัญหาการเข้าถึงบริการ 3จี ซึ่งจะมีบริการโดยทั่วไปและกว้างขวางในปีหน้าว่า ทั่วถึงหรือไม่

24 กันยายน 2552

13 วันนับถอยหลังประชาพิจารณ์คลื่น 3 จี



13 วันนับถอยหลังประชาพิจารณ์คลื่น 3 จี
13 วันนับถอยหลังประชาพิจารณ์คลื่น 3 จี

  • ใกล้เข้ามาอีกคืบสำหรับความหวังการประมูล3จีเมื่อล่าสุดกทช.ได้นำ ร่างสรุปข้อสนเทศการจัดสรรคลื่นความถี่เผยแพร่ผ่านเว็บก่อนเปิดรับฟังประชา พิจารณ์

สำหรับการจัดสรรคลื่นความถี่ IMT หรือ 3G and beyond ย่านความถี่ : 1920-1980 / 2110-2170 MHz ด้วยวิธีการประมูลแบบ Simultaneous Multiple Round (SMR) หรือการประมูลแบบหลายรอบพร้อมกัน ที่เผยแพร่ผ่าน www.ntc.or.th ก่อนที่จะจัดประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นของผู้สนใจในแวดวงวันจันทร์ที่ 28 ก.ย.นี้   
เสนอราคาประมูลจากออฟฟิศได้
 กระบวนการประมูล (Bidding Procedure) ครั้งนี้ ผู้ประมูลจะยื่นประมูลแบบออนไลน์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจากสถานที่ทำงาน ของผู้เข้าประมูล โดยใช้โปรแกรมเฉพาะ ส่วนรูปแบบการประมูลแบบเอสเอ็มอาร์ จะกำหนดจัดสรรใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 3 จี ทั้งหมด 4 ใบอนุญาตพร้อมกันในครั้งเดียว ผู้ประมูลจึงมีโอกาสยื่นประมูลหลายครั้ง หลายรอบ

 ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 3 จี ที่เปิดประมูลมีทั้งสิ้น 4 ใบ ได้แก่ ใบอนุญาต 2x15 MHz (ใบอนุญาต A) จำนวน 1 ใบ และใบอนุญาต 2x10 MHz จำนวน 3 ใบ (ใบอนุญาต B, C, และ D) ซึ่งผู้ยื่นประมูลแต่ละรายสามารถยื่นประมูลได้อย่างมากที่สุด 1 ใบอนุญาตในแต่ละรอบ
วางประกันเงินดีมีโอกาสก่อน
 ใบ อนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 3 จี ที่ผู้ประมูลอาจยื่นประมูลนั้นขึ้นอยู่กับหลักประกันทางการเงิน ที่ผู้ประมูลวางไว้ล่วงหน้าก่อนการประมูลเริ่มต้น ผู้ประมูลที่วางหลักประกันทางการเงินในระดับมากกว่า จะมีสิทธิประมูลใบอนุญาตใบใดใบหนึ่งก็ได้ใน 4 ใบในรอบแรกของการประมูล หลังจากนั้น  ผู้ประมูลก็สามารถยื่นประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 3 จีใบใดใบหนึ่งได้ต่อไป

 ผู้ประมูลที่วางหลักประกันทางการเงิน ในระดับที่น้อยกว่า จะมีสิทธิในการยื่นประมูลสำหรับใบอนุญาต B, C, และ D ใบใดใบหนึ่งในรอบแรกของการประมูล และยังคงมีสิทธิยื่นประมูลสำหรับใบอนุญาต B, C, และ D ได้ต่อไปภายใต้กฎกติกาการประมูล แต่ผู้ประมูลจะไม่มีสิทธิยื่นประมูลสำหรับใบอนุญาต A
เกณฑ์ราคาเริ่มต้นประมูล
 ราคา ประมูลของใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 3 จี ที่ผู้ดำเนินการประมูลประกาศ ซึ่งเป็นราคาที่ผู้ประมูลจะต้องยื่นประมูลในรอบหนึ่งๆ เรียกว่าราคาประมูล หรือ "Going Price" สำหรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 3 จี โดยในรอบแรกราคาประมูลจะเรียกว่า "ราคาเริ่มต้น"

 โดย กทช. จะประกาศราคาเริ่มต้นสำหรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 3 จี แต่ละใบก่อนการประมูล โดยราคาเริ่มต้นสำหรับใบอนุญาต A นั้น คาดว่าจะมีมูลค่าเป็น 1.15 เท่าของราคาเริ่มต้นสำหรับใบอนุญาต B, C, และ D และในแต่ละรอบนั้น ผู้ดำเนินการประมูลจะประกาศ ราคาประมูลสำหรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 3 จี แต่ละใบโดยอิงการยื่นประมูลในรอบก่อนหน้า
จ่ายสูงชนะได้ตั้งแต่รอบแรก
 ใน รอบแรก ผู้ประมูลจะยื่นประมูล โดยระบุใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 3 จี ใบนั้นๆ ในราคาเริ่มต้นที่ผู้ดำเนินการประมูลประกาศ กรณีผู้ประมูลรายหนึ่ง หรือหลายรายต่างยื่นประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 3 จี ใบเดียวกัน ผู้ประมูลรายใดรายหนึ่งจะได้รับเลือกเป็นผู้ยื่นประมูลในราคาสูงสุด และมีสถานภาพเป็นผู้ชนะชั่วคราว เพื่อรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 3 จี

 เพื่อกรณีหากการประมูลนั้นสิ้นสุด โดยไม่มีการยื่นประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 3 จี เพิ่มเติมใดๆ ต่อไปแล้ว ผู้ประมูลรายดังกล่าวก็จะได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 3 จีไป

  ในรอบที่สองและรอบถัดๆ ไป ผู้ประมูลที่เป็นผู้ยื่นประมูลในราคาสูงสุดสำหรับใบอนุญาตหนึ่งๆ ต้องรักษาสถานะการประมูลของตน และไม่สามารถยื่นประมูลใบอนุญาตใบอื่นได้

 ทั้งนี้ ผู้ประมูลที่ไม่ได้ยื่นราคาสูงสุดสำหรับใบอนุญาตคลื่นใดเฉพาะ อาจเพิ่มราคาประมูลใบอนุญาตที่ตนเองยื่นประมูลในรอบสุดท้าย หรืออาจย้ายไปประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 3 จีใบอื่นตามที่ผู้ประมูลรายนั้นมีสิทธิก็ได้
ขั้นตอนการประมูล
 กระบวน การประมูล จะมีขึ้นเป็นรอบๆ พร้อมกำหนดเวลาไว้อย่างชัดเจน ได้แก่ รอบการประมูล แต่ละรอบอาจกำหนดไว้ 1 ชั่วโมง และแต่ละรอบประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนการประมูล 30 นาที ขั้นตอนการประมวลผล 20 นาที และขั้นตอนการรายงานผล 10 นาที 

 ส่วนขั้นตอนการประมวลผลของรอบการ ประมูลนั้น จะเริ่มภายหลังจากขั้นตอนการประมูลสิ้นสุดลง ขณะที่ขั้นตอนการรายงานผลเริ่มต้น เมื่อผู้ดำเนินการประมูลแจ้งให้กับผู้ประมูลทราบถึงผลของการประมูลรอบที่ ผ่านมา และแจ้งราคาประมูลแต่ละใบ

 ขั้นตอนนี้ ผู้ประมูลจะรับทราบข้อมูลราคาประมูลในรอบต่อไป และรับทราบว่าตนเองเป็นผู้ยื่นประมูลในราคาสูงสุดของใบอนุญาตดังกล่าวหรือ ไม่


ข้อมูลจาก:http://www.rssthai.com/reader.php?t=it&r=15061