05 ตุลาคม 2555

ไมโครซอฟท์เปิดตัว Windows 8 วันที่ 26 ตุลาคมนี้


หลังจากที่ Microsoft เปิดให้ทดลอง Windows 8 Consumer Preview สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป และ Windows 8 Developer Preview ออกมาเมื่อปลายปีที่แล้ว ล่าสุดได้มีรายงานจากเว็บบล็อคของไมโครซอฟท์ ว่า สตีเวน ไซนอฟสกี ได้เตรียมเปิดตัวระบบปฏิบัติการตัวล่าสุดของ วินโดวส์ 8 จะเริ่มปล่อยให้ผู้ใช้อัพเกรดวันที่ 26 ตุลาคม 2012 โดยเจ้าตัว Microsoft Windows 8 จะแยกออกเป็นสองส่วนด้วยกันคือ
- การอัพเกรดจากการใช้ระบบปฏิบัติการเดิมของไมโครซอฟท์ เดิมของ Microsoft ได้แก่ Windows 7, Windows Vista และ Windows XP สำหรับค่าอัพเกรดนั้นจะอยู่ที่ ราคา $39.99 หรือประมาณ 1,300 บาทไทย
- การติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 8 ลงบนคอมพิวเตอร์ เครื่องใหม่ สำหรับราคาของตัวนี้จะมาพร้อมแผ่น DVD Windows 8 ในราคา $69.99 หรือประมาณ 2,200 บาทไทย
นับว่าทาง Microsoft ลดราคาเจ้าตัว Windows 8 ลงมาอย่างมากเมื่อเทียบกับระบบปฏิบัติการที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น XP,Vista,7 ราคาค่อนข้างสูง ทำให้ผู้ใช้หลายคนหันไปมองของละเมิดลิขสิทธ์ ข่าวไอที
ที่มา : http://www.itday.in.th

อีกไม่ถึง 5 ปี “รถอัตโนมัติ” ขับด้วยตัวเองมีใช้แน่ !


เซอร์เกย์ บริน หนึ่งใน 2 ของผู้ก่อตั้ง กูเกิล ยักษ์ใหญ่ที่ครองโลกออนไลน์มายาวนาน เปิดเผยวิสัยทัศน์ว่าด้วย “รถอัตโนมัติ” 
ที่ขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองเอาไว้เมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่แคลิฟอร์เนียกลายเป็นรัฐล่าสุดที่ประกาศใช้กฎหมายว่าด้วย “ยานพาหนะอัตโนมัติ” ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้การทดสอบการใช้รถที่ขับเคลื่อนได้เอง โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยคนขับ เป็นเรื่องถูกกฎหมายเป็นรัฐที่ 2 ต่อจากรัฐเนวาดา โดยบรินเชื่อว่า ภายในระยะเวลาอีก 5 ปีหรืออาจจะน้อยกว่านั้น รถที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองดังกล่าวนี้จะมีใช้กันทั่วไปตามท้องถนน
รถที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติด้วยตัวมันเอง โดยไม่จำเป็นต้องมีคนขับ ใช้เทคโนโลยีหลายอย่างที่มีอยู่ผสมผสานกัน ตั้งแต่ระบบเรดาร์เพื่อตรวจสอบบริเวณด้านหน้าของรถ กล้องวิดีโอเพื่อตรวจสอบบริเวณโดยรอบรถยนต์ทั้งหมด นอกจากนั้นยังมีเซ็นเซอร์ในการตรวจจับความเคลื่อนไหวอื่นๆ ที่จะทำงานร่วมกับสมองกล หรือซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ที่จะเป็นตัวกำหนดการเคลื่อนที่และทิศทางของรถยนต์คันดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ทั้งกฎหมายของ เนวาดาและแคลิฟอร์เนียต่างกำหนดให้จะใช้งานรถขับเคลื่อนอัตโนมัติได้ก็ต่อเมื่อมีคนอยู่หลังพวงมาลัย และพร้อมที่จะเข้าควบคุมรถได้ทันทีอยู่ด้วยเท่านั้น
กูเกิลเป็นบริษัทที่เคลื่อนไหวอย่างเปิดเผย เพื่อผลักดันให้มีการใช้รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติดังกล่าวนี้มากที่สุด แม้ว่าจะมีอีกหลายบริษัทมากที่กำลังพัฒนาโครงการคล้ายคลึงกันดังกล่าวนี้ ซึ่งรวมทั้ง “คาลเท็ค” หรือสถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนียในสหรัฐอเมริกา โดยรถยนต์ที่ติดตั้งระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติรุ่นแรกสุดของกูเกิลเป็น โตโยต้า พรีอุส ไฮบริด และต่อมาก็เพิ่มเล็กซัส อาร์เอ็กซ์ 450 เอช รถอเนกประสงค์แบบครอสโอเวอร์เข้าไปอีกรุ่น เชื่อว่าอีกไม่นานก็จะมีอีกหลายๆ รุ่นหลายแบบติดตามมา
เซอร์เกย์ บริน ให้ความเห็นเอาไว้ว่า รถที่ขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองมีประโยชน์หลากหลายอย่างยิ่ง แรกสุดนั้นก็คือ เรื่องความปลอดภัยที่สามารถมั่นใจได้ว่ามีมากกว่าการขับรถด้วยมนุษย์แน่นอน และจะช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ ซึ่งเมื่อปี 2010 ในสหรัฐมีผู้เสียชีวิตเพราะเหตุนี้มากถึง 33,000 คน โดยจนกระทั่งถึงขณะนี้ รถขับอัตโนมัติดังกล่าวนี้มีการใช้งานมาแล้วมากกว่า 300,000 ไมล์ โดย 50,000 ไมล์ ในจำนวนดังกล่าวนั้นเป็นการขับโดยรถยนต์เอง ไม่มีคนเข้ามาเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้่น สถิติของการเกิดอุบัติเหตุเป็น 0 เพราะครั้งเดียวที่เกิดอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ ขึ้นกับรถทดสอบ เกิดขึ้นในระหว่างที่คนเป็นผู้ควบคุมรถ
นายบรินยังระบุด้วยว่า รถอัตโนมัติทำให้คนที่เดิมไม่สามารถขับรถได้ อย่างเช่นคนตาบอดเดินทางได้ด้วยตัวเอง รวมทั้งคนที่มีความพิการด้านอื่นๆ หรือคนที่อายุน้อยเกินไป สูงอายุเกินไป หรือบางทีก็เมามายมากเกินไปก็สามารถใช้ประโยชน์จากรถอัตโนมัติได้
สุดท้าย รถที่ขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองนั้นสามารถทำให้การจราจรลดความหนาแน่นลงเหลือน้อยที่สุด ด้วยการเชื่อต่อเข้าด้วยกันเคลื่อนที่ตามลำดับ ทำให้การใช้ท้องถนนเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ผู้อาศัยรถขับเคลื่อนอัตโนมัติจะใช้เวลาในการเดินทางทำอย่างอื่นได้ เพื่อประโยชน์ที่เห็นว่าคุ้มค่าสูงสุด ในขณะเดียวกัน รถอัตโนมัติก็จะส่งผู้โดยสารลงตรงจุดหมาย แล้วสามารถไปหาที่จอดได้ด้วยตัวเอง ด้วยการเลือกจุดจอดที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อการขับเคลื่อนครั้งต่อไปอีกด้วย

ที่มา : http://news.nerkoo.com

"ไอบีเอ็ม" เผยโฉม"ซีคัวย่า" ซูเปอร์คอมพิวเตอร์"เร็วที่สุดในโลก"


คอมพิวเตอร์"ซีคัวยา" (Sequoia) ของไอบีเอ็ม (IBM) บริษัทด้านเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ ครองตำแหน่งคอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วสูงที่สุดในโลก หรือ"ซูเปอร์คอมพิวเตอร์"  ทำให้ ′เคคอมพิวเตอร์′ ของบริษัทฟูจิตสึ จากญี่ปุ่น หล่นลงมาอยู่ในอันดับที่ 2




นี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี  ที่สหรัฐฯกลับมาคว้าตำแหน่งดังกล่าวมาครองได้อีกครั้ง  หลังจากที่ต้องสูญเสียตำแหน่งดังกล่าวให้แก่จีนเมื่อ 2 ปีก่อน

"ซีคัวย่า" จะถูกใช้งานในการสร้างแบบจำลองของอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อหลีกเลี่ยงการทดสอบอาวุธดังกล่าวในโลกแห่งความเป็นจริง ปัจจุบันซีคัวย่า ตั้งอยู่ในห้องทดลองแห่งชาติลอเรนซ์ ลิเวอร์มอร์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ภายใต้การดูแลของกระทรวงพลังงาน

นายโะมัส แดงกอสติโน จากหน่วยงานความมั่นคงนิวด้านพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ แสดงความมั่นใจว่าซีคัวย่าจะช่วยให้สหรัฐฯดำเนินนโยบายป้องปรามอาวุธนิวเคลียร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ดังกล่าวจะใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง ในการคำนวณข้อมูลได้เร็วเท่ากับเวลา 320 ปี ที่มนุษย์กว่า 6,700 ล้านคน ร่วมกันคำนวณด้วยเครื่องคิดเลขต่อเนื่องโดยไม่หยุดพัก แม้ว่าสหรัฐฯจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำอีกครั้ง แต่เมื่อเปรียบเทียบว่า ในขณะนี้ 10 อันดับแรกของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ อยู่ในสหรัฐฯเพียง 3 เครื่องเท่านั้น เมื่อเทียบกับ 6 เดือนก่อน ที่มีมากถึง 5 เครื่อง   โดยสหรัฐฯครอบครองซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทั้งหมด 3 ตัว ขณะที่ จีน และเยอรมนี มี 2 ตัว ส่วนญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และอิตาลี มีประเทศละ 1 ตัว

ซึ่งเมื่อเทียบกับ "เคคอมพิวเตอร์" ของฟูจิตสึ   ซีคัวย่าจะมีความเร็วกว่า 1.55 เท่า และมีระบบปฏิบัติการหรือโปรเซสเซอร์มากกว่า 1.5 ล้านตัว โดยกินไฟเพียง 7.9 เมกะวัตต์ ขณะที่เคคอมพิวเตอร์กินไฟมากกว่าถึง 12.6 เมกะวัตต์

ที่มา : http://www.matichon.co.th


04 ตุลาคม 2555

ขงจือ...การมองทะลุแก่นแท้ของมนุษย์!!!

ภาพในบรรทัด 1
Human Penetrator การมองทะลุแก่นแท้ของมนุษย์
ขงจื๊อเป็นนักคิดคนสำคัญยิ่งของโลก เป็นทั้งนักการศึกษา นักรัฐศาสตร์ นักปรัชญา และที่สำคัญคือเป็นผู้ที่ทรงอิทธิพล ทางความคิด มากที่สุด ในแผ่นดินจีน คำสั่งสอนของขงจื๊อเป็นรากฐานทางสังคม การเมือง และวัฒนธรรมของทั้งจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีมาจนถึงปัจจุบัน
แนวคิดของขงจื๊อไม่เพียงแต่เน้นให้คนมีคุณธรรม แต่ยังเป็นแนวทางนำไปสู่ความมีอัจฉริยะภาพ คือทำให้รู้ว่าในเวลาหนึ่ง คนเราควร จะคิดอะไร วางตัวอย่างไร คบเพื่อนแบบไหน เพื่อทำให้เราใช้ศักยภาพและเวลาที่มีจำกัด ให้เป็นประโยชน์ต่อตนเอง มากที่สุดแก่น คำสอนของขงจื๊อสรุปได้เป็น 5 หัวข้อ ดังนี้
1. บุคลิกภาพของมนุษย์ที่แท้
มนุษย์ที่สมบูรณ์แบบของขงจื๊อ คือคนมีบุคลิกโดดเด่นเหนือคนทั่วไป มีพลังดึงดูด โน้มน้าวใจคน และมีคุณธรรมเที่ยงตรง ทำให้มีอำนาจเป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไป คุณลักษณะ 7 ประการที่จะช่วยให้มนุษย์มีพลังอำนาจตามวิธีคิดของขงจื๊อ คือ
  • นอบน้อม เพราะคนนอบน้อมจะไปทำอะไร ที่ไหน ย่อมไม่เป็นที่เกลียดชังของคนทั่วไป
  • เมตตากรุณา เพราะคนมีเมตตากรุณา มักจะมี positive aura บนใบหน้าที่ทำให้สามารถเอาชนะใจคนได้โดยง่าย
  • จริงใจ เพราะจะส่งผลให้มีบุคลิกซึ่งเป็นที่ไว้วางใจของผู้อยู่เหนือกว่า ผู้ใต้บังคับบัญชา และบุคคลทั่วไป
  • จริงจัง เพราะย่อมทำทุกสิ่งทุกอย่างลุล่วงลงได้
  • ใจคอกว้างขวาง เพราะย่อมใช้ให้คนทำงานแทนได้ และสามารถเป็นผู้นำที่ดีได้
  • ไม่กินอิ่มเกินไป ไม่แสวงหาความสะดวกสบายจนเกินไป เพราะจะทำให้กลายเป็นคนเกียจคร้าน ไม่แสวงหาหนทางปรับปรุงชีวิต พัฒนาตนเองในขณะที่ยังมีกำลังวังชา และสติปัญญาสมบูรณ์
  • มีอารมณ์มั่นคง ไม่หวั่นไหวง่าย ถ้ากล่าวแบบคนสมัยใหม่ ก็คือการมี EQ สูง
2. วิธีคิดของผู้มีปัญญา
คนเราเกิดมา มีปัญญาสูงต่ำไม่เท่ากัน มีโอกาสในการศึกษาไม่เท่ากัน แต่ขงจื๊อเห็นว่าในชีวิตประจำวันคนเราสามารถค่อย ๆ สร้างสม พัฒนาสติปัญญาให้ได้ด้วยตนเอง โดยการเปลี่ยนปรับวิธีคิดเสียใหม่ เลิกคิดปรุงแต่ง และคิดถึงเรื่องไร้สาระ และหันมาพิจารณาเฉพาะเรื่อง ที่เป็นประโยชน์แทน ดังนี้
  • มนุษย์ที่แท้ จะต้องพิจารณาอยู่เสมอว่า ทำอย่างไร เราจึงจะมองอะไรแล้วสามารถจะเห็นและเข้าใจสิ่งนั้นทะลุปรุโปร่ง และเมื่อได้ยินอะไรแล้ว ทำอย่างไรเราจึงจะฟังให้เข้าใจได้หมดซึ่งก็คือ การใช้สมาธิตั้งใจดู ตั้งใจฟัง นั่นเอง ปัญหาของจำนวนมาก คือ ดู เห็น ฟัง แล้วเข้าใจไม่หมด ตีความผิด ตีความเข้าตนเอง เอาตนเองเป็นที่ตั้งอยู่ตลอด ถ้าแก้ไขจุดนี้ได้ เราก็จะมีฐานข้อมูล ที่ถูกต้องแม่นยำ ซึ่งต้องใช้ประกอบการคิด การตัดสินใจต่อไป
  • อย่าคิดกังวลว่า ใครจะยอมรับยกย่องเราหรือไม่ แต่ให้เป็นกังวลมาก ๆ ว่า ขณะนี้เรายังขาดคุณสมบัติข้อใด ที่ทำให้ยังไม่เป็นที่ยกย่อง ของผู้คน และอย่าเป็นกังวลว่า คนอื่นจะไม่รู้จักนิสัยใจคอของเรา แต่ให้กังวลว่า ตัวเราจะไม่รู้จักนิสัยใจคอของคนอื่นดีกว่าจุดนี้คือ ขงจื๊อต้องการให้คนเราเน้น การพิจารณา เข้าใจ และปรับปรุงตนเอง ในขณะที่แนวโน้มของคนโดยทั่วไปจะชอบ "ส่องนอก ไม่ส่องใน" และใช้เวลาไปกับการจับผิด วิพากษ์วิจารณ์คนอื่นเสียมาก
  • เวลาเห็นช่องทางได้ผลประโยชน์ ต้องคิดถึง ความยุติธรรม ด้วยขงจื๊อเห็นว่า มนุษย์เรามีแนวโน้มจะคิดแบบเห็นแก่ได้ และตัดสินใจ ผิดพลาด เมื่อผลประโยชน์ส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น เพื่อจะไม่ทำผิดคุณธรรม คนเราต้องพิจารณาเรื่อง ความยุติธรรมอยู่เสมอ ๆ ความยุติธรรมที่ให้พิจารณาก็คือ หลักการง่าย ๆ ถ้าเราไม่ชอบอะไร รังเกียจอะไร ก็จงอย่าทำกับคนอื่นแบบนั้น คิดได้แค่นี้
  • นอกจากนี้ ขงจื๊อยังให้ข้อเตือนใจไว้ว่า เกิดมาเป็นมนุษย์ต้องหัดคิดคิดการณ์ไกล เพื่อจะได้ไม่ต้องหลงทางนอกจากนี้ เวลาร่ำเรียนศึกษา ก็ต้องหัดคิดตาม เพราะคนที่ศึกษาหาข้อมูลต่าง ๆ โดยไม่คิด ย่อมไม่ฉลาดมากนัก ในทางตรงกันข้าม คนที่เอาแต่คิดวิเคราะห์สิ่งต่างๆ โดยไม่ชอบศึกษาหาข้อมูล ก็จะเป็นเพียงการคาดเดาหรือ speculation ย่อมจะคิดผิดพลาดได้ง่าย ๆ ดังนั้น คนเราต้องหัดฝึกฝน การคิดและการศึกษาหาข้อมูลไปพร้อม ๆ กัน
3. ระเบียบวินัย
ขงจื๊อกล่าวถึงระเบียบวินัย 3 ประการ ของคนวัยต่าง ๆ กัน
  • วัยหนุ่มสาว พลังยังไม่มั่นคง ต้องมีวินัยเรื่องกามคุณ
  • วัยกลางคน พลังกายใจเข้มแข็งมากที่สุด ต้องมีวินัยเรื่องความพึงพอใจ อย่างเพิ่งเฉยชาหรือพอใจกับอะไรง่าย ๆ
  • วัยชรา หมดเรี่ยวแรง พลังงานลดถอย ต้องมีวินัยกับความโลภ คืออย่ามีความต้องการมากมายไม่มีที่สิ้นสุด
4. การคบคน
ขงจื๊อเชื่อว่า ชีวิตคนเรา จะสุข ทุกข์ ประสบความสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคนที่เราจะเข้าไปเกี่ยวข้องคบหาด้วย ดังนั้น ขงจื๊อจึงมีกฎในการเลือกคบคน ดังนี้
  • ข้อแรก ไม่คบหาคนที่มีคุณงามความดีไม่เท่าเรา
  • ข้อสอง ไม่แสวงความเห็น หรือปรึกษาหารือคนที่มีเส้นทางชีวิตไม่เหมือนเรา
  • ข้อสาม คนที่ควรคบหา คือ คนที่มีความซื่อตรง จริงใจ และมีความรู้
  • ข้อสี่ พึงเลี่ยงคบหาบุคคลที่เสแสร้ง พูดจาไร้สาระ ฉวยโอกาส ฟุ้งเฟ้อ
  • ข้อห้า เมื่อคบหาใครเป็นเพื่อนแล้ว จงมีความจริงใจต่อกัน แต่อย่าปล่อยให้เขาชักนำเราไปในทางที่ต่ำ
5. การพูด
คำพูดของเราต้องแสดงออกถึงความซื่อตรง สอดคล้องกับกริยาทางกาย เพราะถ้าหากคำพูดเราเกิดพร้อมกับกริยามุ่งมั่นจริงใจ พูดสิ่งใดก็ย่อมประสบผลเป็นที่น่าเชื่อถือ
6. การวางตัว
คนเราจะมีคนรักทั่วทิศ หากวางตัวได้ดังนี้
  • เวลาอยู่นอกบ้านแล้วพบผู้คน วางตัวราวกับคนผู้นั้นเป็นแขกสำคัญในบ้าน
  • เมื่อต้องสั่งการ วางตัวราวกับเราเป็นแม่งานของพิธีการที่สำคัญยิ่งใหญ่ (คนที่เป็นแม่งานจะต้องเห็นภาพงานทุกอย่าง ตั้งแต่ต้นจนจบ อย่างรอบด้าน และมีจิตมุ่งมั่นต้องการทำให้งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ในระยะเวลาที่ตั้งใจเอาไว้ เพราะฉะนั้นเวลาคนเป็นแม่งานสั่งงาน จะไม่สักแต่ว่าขอให้ใครทำอะไร แต่จะคิดอย่างรอบคอบถึงผลที่ตามมา จะไม่สั่งการแบบขอไปที แต่จะต้องมีการติดตามผล แนะนำเพื่อให้งานลุล่วงไปได้)
  • อะไรที่เราไม่ชอบ ก็อย่าปฏิบัติต่อคนอื่น
  • เข้มงวดต่อตนเอง แต่ให้อภัยคนอื่น
7. การวางจิต
ขงจื๊อเน้นการมีจิตใจที่ซื่อตรง เขาเห็นว่า ประเทศชาติจะสงบสุขได้ครอบครัวต้องดีก่อน แต่ครอบครัวจะดีได้ มนุษย์แต่ละคนต้องมี คุณธรรมมนุษย์แต่ละคนจะมีคุณธรรม ก็ต้องมีจิตใจที่ซื่อตรงและจิตใจที่ซื่อตรง จะมีได้ก็ต้องมีเจตนาที่ซื่อตรงก่อน ขงจื๊อเน้นจิตที่สามารถมองอะไรชัดเจน ทะลุปรุโปร่ง จิตเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้ก็จากการมองเห็นและรู้จักตนเองอย่างรอบด้านก่อน
Credit : Dong

28 กันยายน 2555

ซีอีโอ อินเทล เชื่อไมโครซอฟท์ปล่อย Window 8 ทั้งที่ยังไม่พร้อม


อีกเพียงแค่ไม่กี่วันก็จะถึงช่วงเวลาของการเปิดตัวระบบปฏิบัติการที่มีกระแสข่าวออกมาตลอดช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมากับ Windows 8 แต่ซีอีโออินเทล Paul Otellini กลับเชื่อว่ามันเร็วเกินไปที่จะเปิดตัว โดยซีอีโอคนดัง ได้บอกกล่าวแก่พนักงานระหว่างงานประชุมภายในของบริษัทที่ไต้หวันเมื่อวานนี้ว่า ไมโครซอฟท์จะทำการเปิดตัวไมโครซอฟท์ วินโดว์ 8 ก่อนที่มันจะมีความเสถียรและการปรับปรุงที่สำคัญ

แต่อย่างไรก็ดี ถึงแม้ Otellini จะเชื่อว่าเจอเนอเรชั่นต่อไปของระบบปฏิบัติการยังไม่มีความพร้อม แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าไมโครซอฟท์ได้กระทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว สำหรับการจัดส่งโอเอสเข้าคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ตเพื่อยกระดับการแข่งขันกับแอปเปิ้ลและเพิ่มยอดขายโดยรวมของพีซีทั้งหมด ซึ่งก็น่าแปลกใจที่คำพูดดังกล่าวออกมาจากปากของ Otellini ซีอีโออินเทล ที่ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับไมโครซอฟท์มานาน แต่ทั้งนี้ อินเทลก็ไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์เดียวที่ออกมากล่าวถึง Windows 8 ซึ่ง Michael Cherry นักวิเคราะห์จาก Directions ก็เชื่อด้วยว่า ถึงแม้โอเอสจะเป็นพื้นฐานสำคัญ แต่มันก็ยังต้องการเรื่องของแอพพลิเคชั่นเข้ามาเติมเต็ม นอกจากนั้น เขายังไม่เชื่อด้วยว่า ผู้ผลิตพีซีจะมีเวลาเพียงพอที่จะทำการพัฒนาไดร์เวอร์ฮาร์ดแวร์ ที่ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาความเข้ากันได้ระหว่างการเชื่อมต่ออุปกรณ์กับ Windows 8

ที่มา http://www.pantip.com

มะนาว+โซดา รักษามะเร็งได้จริงหรือ


"ดูแฟร์.com" มะนาว+ โซดา ก็ลองดูนะไม่มีโทษอะไร...
วันนี้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องโรคมะเร็งมา จึงอยากนำมาให้อ่านกันเพราะมะเร็งเป็นโรคฮิตที่รักษายากหรือไม่มีทางรักษาเลย แอดมินใกล้ชิดคนเป็นมะเร็งมาหลายๆคนแม้จะให้คีโมคิดว่าจะอยู่รอดแต่สุดท้ายก็อยู่ได้ไม่เกินปี ข้อมูลที่นำมานี้น่าสนใจ.....แอดมินเห็นว่าน่าจะมีมูลจริงอยู่เพราะเวลาที่เราอยู่ในภาวะของฝุ่นละอองที่เป็นพิษเราก็มักจะดื่มโซดาเพื่อให้เข้าไปชำระล้างสิ่งสกปรกในร่างกาย
ซึ่งหากได้หรือไม่ได้ผลจริง..ก็ถือว่าได้กินน้ำมะนาวอร่อย ๆ ก็ล่ะกันนะ
ใครกินโซดาล้างผิด มั่ว! ล้างได้ที่ไหน
มะเร็งบางชนิดรักษาไม่ได้ แต่คีโมช่วยให้อายุยืนยาวขึ้นได้ และบางชนิดรักษาได้

สรรพคุณ สามารถ ฆ่าเซลมะเร็งได้ผลกว่าการ คลีโมฯ 10,000เท่า
ไม่เป็นความจริง ไม่มีงานวิจัยยืนยัน คิดเองเออเองทั้งนั้น

การกินมะนาว+โซดา
ไม่มีผลเสียอะไรต่อร่างกายทั้งสิ้น การคลีโมฯ ยังมีผลทำให้่เซลดีๆของร่างกายต้องตายไปด้วย แต่การใช้ น้ำมะนาว+โซดา จะฆ่าเซลมะเร็งพวกนี้ได้ 100%
1. การระบุว่าฆ่าได้100%แปลว่าน้ำมะนาวรักษามะเร็งหาย ยังไม่มีคนหายจากกรณีนี้ โกหก
2. มะนาวโซดา ทำให้ท้องอิ่มง่าย คนที่เป็นมะเร็งที่ต้องการอาหารกลายเป็นมาอิ่มโซดาแทน
3. มะนาวโซดา หลายคนใส่น้ำตาลให้ดื่มง่าย ผมเห็นหลายสูตรที่คนไข้กินไม่ได้ต้องไปปรับใส่น้ำตาลแล้วน้ำตาลพุ่งเพราะเป็นเบาหวานเดิม

ทำไมต้องโซดา?
ใช้ผสมกับน้ำก็ได้ แต่จะได้ผลช้า ถ้าใช้กับ โซดา มันจะเหมือนๆกับเครื่องยนต์ เวลาติดเทอร์โบ จะได้ผลเร็ว และรุนแรงกว่ามาก
มั่ว โซดาลงกระเพาะอย่างมากก็ทำให้เป็นกรดเพิ่มขึ้นหน่อยนึง อธิบายมาสิว่าเกี่ยวกันยังไง
 
วิธีรักษามะเร็ง แบบได้ผล
แถมต้นทุนประหยัดแบบสุดๆแบบนี้ ใครมีคนรู้จักเป็นมะเร็งอยู่ ให้เอาไปบอกบุญกันได้
ไม่ได้ผลครับ ต้นทุนประหยัดก็แค่ราคา แต่ว่าไปเสียประโยชน์จากด้านการกินอาหารได้ลดลง ความหวังที่ไม่จริง และยังเป็นบทความเป่าหูว่าคีโมอันตรายเกินความจริง 
บุญรักษาทุกๆท่าน
คนที่แชร์โดยรู้เท่าไม่ทัน รีบลบก่อนจะเป็นบาปครับ บุญรักษาทุกๆท่านครับ

แล้วทำไมถึงไม่มีการเผยแพร่ ออกมา
ตอบแบบง่ายๆ ถ้าแพร่ออกมา อย่างเป็นทางการ บริษัทยาทั่วโลกก็เจ๊งนี่คือความเลวทรามของมนุษย์ที่เอาเปรียบมนุษย์ด้วยกัน วิธีนี้ถูกค้นพบนานแล้ว แต่ถูกปกปิดเอาไว้ ไม่ให้ผลรายงานนี้ออกมาสู่สาธารณะ
มั่ว นี่คือความเลวทรามของมนุษย์ที่พร้อมจะแชร์เรื่องโกหกและเรื่องใส่ร้ายคนอื่นให้ตนดูดี ไม่ยอมตรวจสอบ เพียงเพื่อเอาแชร์ หรือเอาไว้แปะเว็บขายสมุนไพรของตน
 by หมอแมว
credit : dong

13 ประโยชน์จากกล้วย ที่ไม่กล้วยอย่างที่คิด


ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบของถูกแต่ดี หาซื้อง่าย กล้วยนี่ล่ะคือคำตอบ เพราะผลไม้ชนิดนี้อุดมไปด้วยคุณประโยชน์แบบที่คุณขาดไม่ถึง!!

 1. ลดอาการเสียวท้อง กล้วยเป็นยาลดกรดโดยธรรมชาติอยู่แล้วเวลาท้องอืดถ้าได้ทานกล้วยสัก 2-3 ลูก ไม่นานคุณจะรู้สึกสบายขึ้น วิธีนี้เหมาะจะเอาไว้ใช้เวลาเดินทางไกลๆ ที่หาร้านขายยายากด้วยค่ะ
 2. ตื่นเช้าอย่างสดใส คนที่มักตื่นขึ้นมาพร้อมอาการมึนหัว หงุดหงิด ใจสั่น นั่นเป็นเพราะหลายชั่วโมงที่นอนหลับ น้ำตาลในเลือดของเราลดต่ำลง แต่เรื่องแค่นี้กล้วยช่วยได้ น้ำตาลฟรุตโตสในกล้วยเป็นกรดโมเลกุลเดี่ยวที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ทันที ช่วยให้อาการมึนหัวและอารมณ์แย่ๆ หายเร็วทันใจ
 3. ปกป้องลำไส้ ช่วงไหนรู้สึกว่าโรคกระเพาะกำลังเล่นงาน อย่าลืมเพิ่มกล้วยเข้าไปในเมนูอาหารทุกมื้อค่ะ นอกจากจะทานง่าย ไม่ต้องยุ่งยากเวลาย่อยแล้ว กล้วยยังมีสารบางอย่างคล้ายนมที่จะเข้าไปเคลือบกระเพาะของเรา แผลในลำไส้ซึ่งเป็นตัวการเกิดโรคกระเพาะจะได้สมานตัว
 4. หยุดโรคโลหิตจาง กล้วยเป็นยาดีที่ไม่ควรพลาดสำหรับคนที่กำลังเป็นโรคโลหิตจาง เพราะมันมีธาตุเหล็กจะเข้าไปช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือด โลหิตจางๆ ของคุณจะได้กลับสู่สภาวะเข้มข้นปกติ เลิกหน้ามืดเป็นลมกันเสียที
 5. ป้องกันความดันโลหิต องค์การอาหารและยาของอเมริกาเลือกให้กล้วยเป็นอาหารที่ดีที่สุดในการฟื้นฟู และป้องกันโรคความดันโลหิต เพราะมันมีธาตุโพแทสเซียมสูงมาก แต่มีปริมาณเกลือต่ำ เพอร์เฟ็คท์สำหรับร่างกายของคนเป็นความดันสุดๆ
 6. เลิกบุหรี่ต้องกินกล้วย คนที่ประสบการณ์เลิกบุหรี่มาแล้ว คงรู้ดีว่าความรู้สึกในตอนนั้นมันทรมานขนาดไหน แต่ถ้าได้กินกล้วยเป็นประจำความทรมานนี้จะลดลง เนื่องจากในกล้วยมีวิตามินซี เอ บี 6 บี 12 โพแทสเซียม และแมกนีเซียมสูงปรี๊ด สารอาหารเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว คุณจะสดชื่นกระปรี้กระเปร่าจนไม่ค่อยจะโหยหานิโคตินเท่าไร
 7. เรียนเก่งเพราะกินกล้วย โพแทสเซียมในกล้วยช่วยเพิ่มกำลังสมองให้เราได้ ถ้าวัยรุ่นที่ต้องท่องหนังสือเป็นประจำกินกล้วยเป็นอาหารเสริมทุกมื้อ คแนนสอบของคุณจะพุ่งฉิวเดินยืดโชว์พาวได้ทั้งโรงเรียนเลย เรื่องนี้ผลวิจัยเขายืนยันมาจ้า
 8. ลดอาการซึมเศร้า โรคนี้ใครที่เคยเป็ฯจะรู้สึกว่าทรมานมาก แต่จากการสำรวจพบว่าความรู้สึกซึมเศร้าจะลดลงหลังจากได้กินกล้วย เพราะร่างกายได้รับโปรตีน trypotophan ที่จะถูกเปลี่ยนให้เป็นสารแห่งความสุขที่ชื่อเซโรโทนิน รู้อย่างนี้แล้วคนที่อยากอารมณ์ดีตลอดเวลาคงต้องเพิ่มกล้วยเจ้าไปในเมนูอาหารประจำวันแล้วละ
 9. ลดอาการเมาค้าง ในกรณีที่คุณเป็นผีเสื้อราตรี ชอบออกไปเฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อนแล้วกลับถึงบ้านในสภาพเมาปลิ้นสิ้นแรง ก่อนเข้านอนควรทานน้ำกล้วยปั่นใส่น้ำผึ้งก่อน 1 แก้ว กล้วยจะไปเคลือบกระเพาะไม่ให้หิวกลางดึก และทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสมดุล น้ำผึ้งเพิ่มความกระปรี้กระเปร่า ควบคุมระดับน้ำตาลระหว่างหลับ ตื่นขึ้นมาคุณจะมีอาการเมาค้างน้อยมากถึงมากที่สุด
 10. แก้ปัญหาท้องผูก กล้วยเป็นยาระบายอ่อนๆ ของไทยเรามตั้งแต่โบราณ โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้า แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นกล้วยสุกเท่านั้น ส่วนกล้วยดิบอาจทำให้ลำไส้อุดตัน กินแล้วปมในท้องจะขมวดเกลียวผูกหนักยิ่งกว่าเดิม
 11. ป้องกันเส้นเลือดฝอยแตก กล้วยช่วยคุณได้ ผลวิจัยในวารสาร “The New England Journal of Medicine” บอกว่าการกินกล้วยเป็นประจำสามารถลดอันตรายที่เกิดกับเส้นโลหิตแตกได้ถึง 40%
 12. ไดเอทด้วยกล้วย ที่ญี่ปุ่นมีวิธีไดแอทที่เคยฮิตอยู่ช่วงหนึ่งเรียกว่า “บานาน่า ไดเอท” หรือไดเอทด้วยการกินกล้วยแสดงว่ากล้วยสามารถช่วยให้น้ำหนักตัวลดลงได้เหมือนกัน เพราะมันสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ช่วยให้ไม่หิวบ่อย คนที่กินกล้วยทุกๆ 2 ชั่วโมงจะไม่ค่อยอยากอาหาร ไม่ต้องทานจุกจิก ที่สำคัญถึงจะกำลังไดเอทคุณก็ไม่หงุดหงิด เพราะได้ช่วยช่วยดีๆ อย่างวิตามินบี 6 และโปรตีนtrypotophan นั่นเอง
 13. กำจัดหูด เรื่องนี้คนไทยโบราณทำกันมานานแล้ว แต่คนรุ่นใหม่อย่างเราอาจยังไม่รู้ว่าหูดกับกล้วยเป็นอะไรที่เข้ากั๊นเข้ากัน เพียงแค่คว่ำเปลือกกล้วยลงไปบนหูดให้ส่วนที่เป็นตัวยางแนบติดกับหูด แปะพลาสเตอร์ทับไว้ให้เปลือกกล้วยไม่เลื่อนทำทุกวันประมาณ 1 สัปดาห์เม็ดหูดจะเล็กลงและหลุดไปเอง
ที่มา นิตยสาร SPICY
เครดิต : Dong

26 กันยายน 2555

ความอัศจรรย์ 9 ประการของพระมหาธาตุชเวสิกอง

ภาพในบรรทัด 1

*พระมหาธาตุเจดีย์ชเวสิกอง (Shwezigon Pagoda) แห่ง เมืองพุกาม (Bagan) สหภาพเมียนมาร์*
  เจดีย์ใหญ่ สวยงาม ศักดิ์สิทธิ์และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศพม่า เป็นที่เคารพนับถือของทั้งชาวพม่าและชาวไทย ตั้งอยู่ที่เมืองพุกาม โดยชื่อ "ชเวสิกอง" มีหมายความว่า "เจดีย์ทองแห่งชัยชนะ" (ชเว = ทอง) สร้างโดย พระเจ้าอโนรธามังช่อ แต่แล้วเสร็จในรัชกาลพระเจ้าจานสิตาแห่งอาณาจักรพุกาม ราว 960 ปีก่อน ภายในเจดีย์เชื่อว่าบรรจุพระเขี้ยวแก้วและพระสารีริกธาตุ โดยอัญเชิญมาจากลังกา บนหลังช้างเผือก พระเจ้าอโนรธามังช่อได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าช้างเผือกคุกเข่าลงที่ใด จะสร้างเจดีย์ไว้ที่นั่น
  เจดีย์ชเวสิกองถูกบูรณะในสมัยต่อมาอีกหลายครั้ง เจดีย์ชเวสิกองเป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำพื้นผิวภายนอกถูกปิดด้วยทองคำเปลว ปัจจุบันมีความสูงราว 53 เมตร หรือ 160 ฟุต มีลวดลายปูนปั้นอยู่ 3 แถว และมีเจดีย์เล็ก ๆ เป็นบริวารอยู่รายรอบ

ความอัศจรรย์ 9 ประการของพระมหาธาตุชเวสิกอง

1. ยอดพระเจดีย์ไม่มีการใช้เหล็กเสริม

2. กระดาษห่อแผ่นทองคำเปลวที่นำไปปิดส่วนยอดพระเจดีย์ จะไม่ปลิวพ้นฐานสี่เหลี่ยมของพระเจดีย์

3. เงาพระเจดีย์จะไม่ล้ำออกนอกฐานสี่เหลี่ยมของพระเจดีย์ (ถ้าเงาล้ำออกไป ถือว่าเป็นลางร้าย)

4. ภายในเขตองค์พระเจดีย์ สามารถรองรับผู้แสวงบุญได้ไม่จำกัดจำนวน (ไม่เคยเต็ม)

5. มีการให้ทานด้วยข้าวสุกร้อน ๆ ทุกเช้า (ไม่ว่าเราจะตื่นเช้าสักเพียงใด จะพบข้าวสุกในบาตรอยู่ก่อนหน้าเราเสมอ)

6. เมื่อตีกลองใบใหญ่จากด้านหนึ่งของพระเจดีย์ จะไม่สามารถได้ยินเสียงกลองจากด้านตรงข้าม

7. แม้พระเจดีย์จะตั้งอยู่บนพื่นราบ แต่เมื่อมองจากภายนอก จะเกิดภาพลวงตาคล้ายพระเจดีย์ตั้งอยู่บนที่สูง

8. ไม่ว่าฝนจะตกหนักเพียงใด จะไม่มีน้ำฝนขังอยู่ในอาณาเขตขององค์พระเจดีย์

9. มีต้นพิกุล (Khaye หรือ Chayar) ซึ่งจะออกดอกตลอดทั้งปี (ปรกติจะออกปีละครั้ง)

20 กันยายน 2555

มาแล้ว! ราคาขาย Office 2013 มีสองรุ่นให้เลือกใช้ สนนราคาเริ่มต้นที่ 99 เหรียญฯ


ได้ฤกษ์ประกาศราคาขายชุดแพ็คเกจโปรแกรม Office 2013 และอัตราค่าสมาชิกสำหรับการใช้งานโปรแกรม Office 2013 ผ่านเทคโนโลยีคลาวด์ เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวานนี้ สำหรับไมโครซอฟท์ ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจ สำหรับตัวซอฟท์แวร์เวอร์ชั่นออนไลน์ ก็คือการที่โปรแกรมจะถูกอัพเดทบ่อยครั้งกว่าและมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ รวมถึงการอนุญาตให้ธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบการที่มีคอมพิวเตอร์จำนวนห้าเครื่องหรืออุปกรณ์พกพาสามารถเข้าถึงโซลูชั่นต่างๆ ได้ในราคาเดียว

โดยโปรแกรมเอกสาร Office 365 ที่จะวางจำหน่าย ประกอบด้วยสองเวอร์ชั่นคือ Home Premium และ Small Business Premium สนนราคาเริ่มต้นที่ 99.99 เหรียญฯ ต่อปี (3,000 บาท) และ 149.99 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปีต่อหนึ่งผู้ใช้ (4,500 บาท) ตามลำดับ โดยทั้งสองเวอร์ชั่นจะมาพร้อมกับโปรแกรมฉบับสมบูรณ์ที่มีอยู่ในเวอร์ชั่น Office Professional ปัจจุบันอย่าง Word, Excel, PowerPoint, OneNote, Outlook, Publisher และ Access ส่วนข้อแตกต่างระหว่างรุ่น Home Premium กับรุ่น Small Business Premium คือ ในรุ่นโฮมจะได้รับพื้นที่สำหรับเก็บเอกสารบน SkyDrive 20 กิกะไบต์และใช้โปรแกรม Skype ได้ฟรี 60 นาทีต่อเดือน ขณะที่ในรุ่น Small Business จะมาพร้อมกับโปรแกรม Lync ที่สามารถประชุมผ่านวีดีโอความละเอียดสูง และ InfoPath นอกจากนี้ ยังได้รับสิทธิในการใช้โปรแกรมออฟฟิศผ่านคอมพิวเตอร์ห้าเครื่องด้วยการลงทะเบียนครั้งเดียวและมาพร้อมกับพื้นที่เมลล์บ๊อกซ์ 25 กิกะไบต์ ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์ได้เปิดให้ผู้ที่สนใจทดลองใช้งานทั้งสองเวอร์ชั่นฟรีเป็นเวลา 30 วัน ส่วนกำหนดเวลาที่เวอร์ชั่นสมบูรณ์จะวางตลาดจะเป็นเมื่อใดยังไม่มีการระบุ เพียงแต่มีข่าวออกมาว่า กำหนดการอัพเดทโปรแกรมเวอร์ชั่นก่อนหน้าจะมีขึ้นในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ ซึ่งอาจจะเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ Windows 8 เปิดตัว

ที่มา http://www.pantip.com

แต่งบ้านโมเดิร์น สีเขียวอ่อน สดใส น่ารักสุดๆ


แต่งบ้านโมเดิร์น

แบบบ้านกล่อง โมเดิร์นทันสมัย สีเขียวสดๆ

สำหรับบ้านโมเดิร์นหลังนี้ เอาใจคนรักสีเขียวโดยเฉพาะ จากผลการโหวตในแฟนเพจ banidea.com สีเขียว ได้รับโหวตเป็นสีอันดับ 1 อาจเนื่องด้วยเสน่ห์ของความสดใส ทำให้หลายท่านตกหลุมรักสีนี้ ทั้งความสดใสและดูเป็นธรรมชาติ เมื่อนำมาผสานร่วมกับสีขาวที่ดูสะอาดตา ทำให้ความเรียบหรูของบ้านโมเดิร์นหลังนี้ ดูสะดุดตา ชวนให้เปิดประตูบานเขียวอ่อน เข้าไปชมยิ่งนัก
สถาปนิก : Matt Gibson Architecture
ประตูบ้าน สีเขียว รั้วไม้ สีขาว
แบบบ้านกล่อง Minimal Style
ตกแต่งบ้าน สีเขียวอ่อน สดใส สบายตา
ตกแต่งภายในบ้านโมเดิร์น
แต่งบ้านโมเดิร์น ครัวสีเขียว
บ้านสีเขียว จัดสวนโมเดิร์น
แต่งบ้าน สีเขียวอ่อน
จัดสวน ปลูกต้นไม้ ภายในบ้าน
ผนังห้อง โทนสีเขียว เขียวอ่อน เขียวเข้ม
เคาน์เตอร์ห้องครัว หินอ่อน หินขัด
เคาน์เตอร์ห้องครัว ทำจากหินอ่อน
โต๊ะกินข้าวสวยๆ
ประตูห้องนอน แต่งห้องสีเขียวอ่อน
แต่งห้องนอนด้วย Wallpaper
ตกแต่งห้องสวย ด้วยวอลเปเปอร์
การตกแต่งบ้านให้น่าอยู่
บทความโดย © : banidea.com
credit : dong

Relaxing Nature Music 1 Hour of Good Sleep

ดนตรีธรรมชาติเพื่อสมาธิ



ดนตรีธรรมชาติเพื่อสมาธิ

Sleeping Music 8 For Deep Sleeping

Relaxing Nature Music 1 Hour of Good Sleep

Relaxing Nature Music Swedish Forests - Suoni della Natura

Two Hours of Rain and Thunder on the Lake

Forest Video with Sound 1 HOUR

Beach Wave Video with Sound 1 HOUR

Water Relaxation with Sound 1 HOUR

Waterfall video relaxation

Country Forest Relaxation

Ocean Seagulls Relaxation

Forest stream video with sound in HD

Very Relaxing 3 Hour Video of Ocean Waves

Those Relaxing Sounds of Waves - Full HD Film, Ocean Waves in 1080p, 1h long

Nature Sound 15 - THE MOST RELAXING SOUNDS -

The Flow - THE MOST RELAXING MUSIC -

Nature Sound 22 - THE MOST RELAXING SOUNDS -

Relaxing Nature Sounds & Video [HD] - Binaural Meditation - waterfall w/o music - ReWake

RELAXATION VIDEO #1 HD KAUAI Best Beaches nature sounds most relaxing Ocean Sleep bedtime 

18 กันยายน 2555

ข่าวร้าย! Photoshop เวอร์ชั่นต่อไปไม่รองรับ Windows XP



Windows XP นับเป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากผู้ใช้และพิสูจน์ด้วยอายุการทำงานที่มากถึง 11 ปี ตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2001 ซึ่งก็ผ่านยุคสมัยของการพัฒนาโปรแกรมแต่ละเวอร์ชั่นจากแต่ละค่ายมาอย่างมากมาย ที่ห่างหายไปบ้างก็มี และล่าสุดก็ถึงคราวของโปรแกรมตกแต่งภาพชื่อดังอย่าง Photoshop ที่อะโดบี้ ต้นสังกัดออกมาประกาศว่า Photoshop CS6 เวอร์ชั่นปัจจุบันจะเป็นรุ่นสุดท้ายที่สนับสนุนการใช้งานร่วมกับ Windows XP

โดยเหตุผลสำคัญสำหรับการยุติการสนับสนุน ทีมพัฒนาระบุว่า เพราะมันเป็นซอฟท์แวร์ที่ต้องการประสิทธิภาพและความไวที่ทันสมัยที่จำเป็นต้องใช้งานควบคู่กับอินเทอร์เฟสกราฟฟิคที่ทันสมัยเช่นกัน ซึ่งจุดนี้ถือเป็นจุดอ่อนของ Windows XP ส่วนฟีเจอร์สมัครสมาชิก Creative Cloud สำหรับการเข้าถึง Creative Suite 6 และซอฟท์แวร์อื่นๆ ที่มีค่าใช้จ่ายต่อเดือน 50 เหรียญสหรัฐฯ และคุณสมบัติใหม่ที่จะมาใน CS7 ก็จะไม่ได้สนับสนุนการใช้งานร่วมกับ Windows XP ด้วยเช่นกัน

Source : CNET
ที่มา http://www.pantip.com

ไมโครซอฟท์ใจปล้ำ! แจก 'ของขวัญชุดใหญ่' ให้พนง. รับเทศกาลคริสต์มาส


อีกเพียงไม่กี่เดือน ทั่วโลกก็จะเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความสุขหรือเทศกาลคริสต์มาสกันแล้ว ดังนั้นเพื่อเป็นการต้อนรับเทศกาลแห่งความชื่นมื่น ไมโครซอฟท์จึงใจปล้ำจัดแจก 'ของขวัญชุดใหญ่' ให้แก่พนักงานประจำทั้งหมด 94,000 คนก่อนใคร ด้วยแพ็คเก็จอุปกรณ์ไอทีที่ประกอบไปด้วยแท็บเล็ต Surface, คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ และสมาร์ทโฟน Windows Phone 8 หรือมีนัยแฝงเพื่้อเป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ของการทำงานจากที่บ้านและบริษัท

ทั้งนี้ โดยปกติทั่วไปแล้ว บริษัทจากเรดมอนด์ มีรอบการรีเฟรชอุปกรณ์คอมพิวเตอร์สำหรับการทำงานทุกๆ สามปี แต่ล่าสุดนี้ มันถูกร่นเวลาให้ไวขึ้นเพื่อที่จะให้ทุกคนได้สัมผัสและเข้าถึง Windows 8 ซึ่งพนักงานจะสามารถเลือกรับอุปกรณ์ได้ระหว่างเดสก์ท็อป, แล็บท๊อป, อัลตร้าบุ๊ค หรือแท็บเล็ต ตามแต่จุดประสงค์การทำงาน และเช่นเดียวกับข้อเสนอสมาร์ทโฟน Windows Phone 8 พนักงานประจำทุกคนยังจะได้รับแท็บเล็ต Surface สำหรับใช้ทำงานทั้งที่บ้านและบริษัท ซึ่งตามเท่าที่แหล่งข่าวรับทราบมา พนักงานผู้โชคดีจะได้รับรุ่น Surface RT รุ่นเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ดี ทั้งหมดนี้ก็ถือเป็นของรางวัลตอบแทนจากบริษัทไมโครซอฟท์ยักษ์ใหญ่ สำหรับการทุ่มเทการทำงานของพนักงาน สวนทางกับแอปเปิ้ล ที่มีสวัสดิการให้พนักงานเพียงแค่ส่วนลดสินค้าจากราคาปกติเท่านั้น

ที่มา : http://www.pantip.com

17 กันยายน 2555

6 ประโยชน์ที่สมองได้รับ จากการออกกำลังกาย


การเคลื่อนไหวด้วยการ ออกกำลังกาย เปรียบแล้วก็เหมือนกับยารักษาโรค และนี่คือประโยชน์ที่สมองของคุณจะได้รับทุกครั้งที่คุณเริ่มออกกำลังกาย

 1. ช่วยให้สมองเจริญเติบโต

          ยิ่งเราเเก่ตัวลงเท่าไหร่ การเกิดของเซลล์สมองก็จะยิ่งช้าลงเท่านั้น และเนื้อเยื่อในสมองของเราก็จะค่อย ๆ หดตัวลง แต่การออกกำลังกายจะช่วยเหลือในส่วนนี้ได้ จากการศึกษาผลการสแกนสมองของคนอายุ 60-79 ปี ที่มีสุขภาพดี แต่ไม่ชอบเคลื่อนไหวหรือออกกำลังกายนั้น ได้เเสดงให้เห็นว่า สมองของพวกเขามีขนาดที่ใหญ่ขึ้นภายใน 6 เดือน หลังจากที่ออกกำลังกายเเบบเต้นแอโรบิก แต่คนที่ออกกำลังกายเเบบยืด หรือคลายกล้ามเนื้อ จะได้รับผลน้อยมาก ๆ

          นอกจากนี้ นักวิจัยได้สรุปว่า การที่ระบบกล้ามเนื้อหัวใจสามารถทำงานได้ดีขึ้นนั้น เป็นผลมาจากการออกกำลังกายแบบแอโรบิก เเละการออกกำลังกายเเบบนี้ ยังมีผลน้อยมากกับการเปลี่ยนแปลงของสมองตามอายุ ในคนชรา การออกกำลังกายเเบบบริหารกล้ามเนื้อหัวใจ จะช่วยทำให้เลือดไหลไปหล่อเลี้ยงสมองได้มากขึ้น ซึ่งช่วยส่งออกซิเจนที่จำเป็นไปให้สมองได้มากขึ้นอีกด้วย (สมองใช้ออกซิเจนกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของออกซิเจนทั้งหมดที่มีในร่างกาย)

 2. ช่วยให้สมองสร้างฮอร์โมนได้มากขึ้น

          การที่เราออกกำลังกาย ก็เหมือนกับการที่เราเอาสารอาหารที่จำเป็นไปใส่ไว้ในพืช ซึ่งช่วยให้พืชเจริญเติบโตรวดเร็วเเละอุดมสมบูรณ์ นักเคมีรับรู้ว่า การที่สมองได้รับสารที่มีส่วนช่วยบำรุงสมอง หรือที่เรียกว่า BDNF จะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของสมองและเพิ่มจำนวนเซลล์สมอง นี่เป็นความจริงที่สุด โดยเฉพาะกับสมองส่วนฮิปโปเเคมปัส ซึ่งเป็นหน่วยความจำของสมอง และสมองส่วนนี้จะเสื่อมตัวลงได้ง่ายเมื่ออายุมากขึ้น ยิ่งคุณออกกำลังกายมากเท่าไหร่ ร่างกายก็ยิ่งหลั่งสารบำรุงสมองมากเท่านั้น

สุขภาพดี

 3. ช่วยลดความหดหู่และอาการวิตกกังวล

          ความโศกเศร้าหดหู่ จะส่งผลให้ความสามารถในการประมวลผลของสมองทำงานได้ช้าลง และทำให้เราไม่สามารถมีสมาธิจดจ่อและตัดสินใจอะไรได้ รวมทั้งก่อปัญหาต่อความจำของเราอีกด้วย และหากใครที่หดหู่อย่างรุนแรง คุณหมอก็อาจจะออกใบสั่งยาแก้อาการซึมเศร้าให้ สำหรับคนที่ซึมเศร้าไม่หนักมาก การออกกำลังกายจะช่วยให้คุณอารมณ์ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นการผลิตสารเซโรโธนิน และสารโดพามีน ซึ่งเป็นสารสำคัญที่สมองหลั่งออกมาเมื่อกำลังมีความสุข นอกจากนี้ การออกกำลังกาย ยังช่วยเพิ่มระดับของสารเอ็นโดรฟิน สารแห่งความสุขอีกด้วย

 4. ช่วยลดผลจากความเครียด

          ถ้าฮอร์โมน BDNF จะช่วยให้สมองของคุณดูหนุ่มขึ้น ก็มีสารตรงข้ามแบบอื่น ๆ ที่ทำให้สมองของคุณแก่ตัวลงเช่นกัน นั่นรวมไปถึงฮอร์โมนที่มีชื่อว่า คอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนเเห่งความเครียด การทำอะไรช้า ๆ การที่มีความคิดกระจัดกระจาย และอาการขี้หลงขี้ลืม ล้วนแล้วแต่เกิดจากความเครียดมากกว่าที่เราจะตระหนักซะอีก 

          การออกกำลังกายจะช่วยลดฮอร์โมนคอร์ติซอล และช่วยให้คุณกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่า การออกกำลังกายช่วยสร้างเซลล์ในส่วนของสมองที่มีชื่อว่า Dentate Gyrus ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เชื่อมโยงกับส่วน hippocampus ที่เกี่ยวกับการสร้างความทรงจำ เซลล์สมองในส่วนนี้จะค่อย ๆ ว่างเปล่าไปเมื่อเราเกิดอาการเครียด

สุขภาพ

 5. ช่วยพัฒนาฟังก์ชั่นการทำงานของสมอง

          ฟังก์ชั่นการทำงานของสมอง หมายถึงความสามารถในกระบวนการคิด เช่น สามารถที่จะจดจ่ออยู่กับการทำงานที่ซับซ้อน สามารถจัดการ คิดอย่างเป็นนามธรรม และวางแผนเพื่อเหตุการณ์ในอนาคตได้ นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการทำงานของหน่วยความจำ เช่น ความสามารถในการจดจำหมายเลขโทรศัพท์ในหัวในระหว่างที่คุณกำลังกดโทรศัพท์ 

          เมื่อนักวิจัยต้องการที่จะวิเคราะห์ผลการออกกำลังกาย ที่มีผลต่อฟังก์ชั่นการทำงานของสมองนั้น พวกเขาได้ศึกษาด้วยวิธีการต่าง ๆ กว่า 18 วิธี และพบว่า ผู้ใหญ่ที่มีอายุระหว่าง 55-80 ปี ซึ่งออกกำลังกายเป็นประจำ มีฟังก์ชั่นการทำงานของสมองในด้านกระบวนการคิด ดีกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกายถึง 4 เท่า ผลนี้มีมากขึ้นในคนที่ออกกำลังกาย ประมาณ 30-45 นาที ติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 6 เดือน แต่ผลดีเหล่านี้ แทบจะไม่มีผลอะไรกับคนที่ออกกำลังกายเพียง 4 สัปดาห์

 6. ช่วยสร้างเพิ่มความไวต่อการรับสารอินซูลินในร่างกาย
 
          เมื่อคุณรับประทานอาหาร ร่างกายของคุณจะเปลี่ยนอาหารเหล่านั้นให้กลายเป็นน้ำตาลกลูโคส ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำคัญของร่างกาย รวมทั้งสมองด้วย การที่จะทำให้กลูโคสสามารถแทรกซึมเข้าไปในเซลล์ได้ กลูโคสต้องมีสารอินซูลินเป็นตัวช่วย แต่น่าเสียดาย ที่ร่างกายของคนบางคนมีปฏิกิริยาต่อต้านอินซูลิน ทำให้ร่างกายยิ่งเพิ่มสารอินซูลินมากขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูง ก็จะทำให้กลายเป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2 และหากว่าคุณไม่ได้เป็นเบาหวานประเภทที่ 2 การที่ร่างกายต่อต้านอินซูลิน ก็ส่งผลเสียต่อตัวคุณอยู่ดี และเมื่อเซลล์สมองเต็มไปด้วยกลูโคส ก็จะส่งผลต่อระบบความจำและการคิ

          การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายต่อต้านสารอินซูลินได้ ยิ่งความไวในการรับสารอินซูลินมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะช่วยทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงสภาพมากขึ้นเท่านั้น อย่างน้อยก็ 16 ชั่วโมงหลังจากการออกกำลังกาย และยิ่งร่างกายของคุณสามารถควบคุมระดับปริมาณน้ำตาลในเลือดได้มาก ก็จะช่วยเพิ่มการปกป้องต่อการเสื่อมของกระบวนการคิดของสมองได้ด้วย

ขอบคุณเนื้อหาดี๊ดีจาก kapook.com
credit :dong