(จากหนังสือ “พลังบำบัด” โดย นพ แอนดรูว์  ไวล์, หน้า 147-152)
            ผมจะเล่าประสบการณ์ประวัติ
            เมื่อก่อน  ชินเป็นคนบ้างาน  พร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง  นอนน้อย  ดื่มกาแฟหนักถึงวันละ10-20 ถ้วย  โปรดปรานสเต๊กเนื้อและของหวาน  ไม่มีเวลาแม้แต่จะฟังดนตรีบ้าง
            เมื่อฤดูใบไม้ร่วงปี 1983  ชินเป็นไข้นานถึง 1 เดือน  จนนั่งหรือยืนไม่ติดเลย  แต่แพทย์ก็ไม่พบว่ามีอะไรผิ
            ถึงต้นฤดูใบไม้ร่วงปี  1984  ชินก็อ่อนแรงลงเรื่อยๆ จนทำงานต่อไปไม่ได้  อยากแต่จะนอนอย่างเดียว  จึงเข้าไปขอตรวจร่างกายเพิ่มเติ
แกรม (การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่
            ธรรมเนียมอย่างหนึ่งของแพทย์ญี่
-    2    -
จึงไม่ยอมรับยาให้ครบชุด  แพทย์จึงเปลี่ยนวิธีให้เขารั
            “ผมอยู่ตึกคนไข้บนชั้นสอง”  เขาเล่า  “แต่ผมได้กลิ่นเขาปรุ
            รุ่งขึ้น  แพทย์เจ้าของไข้ตะคอกชินว่า  “เมื่อคืนคุณก่อเรื่องเดือดร้
            “นึกภาพไม่ออกเลยจริงๆ”  ชินเล่าให้ฟัง
            เช้าวันรุ่งขึ้น  ชินลืมตาขึ้นมาอย่างแปลกใจที่ตั
            “ผมรู้สึกว่ากำลังจะมีเรื่องมหั
            ตั้งแต่นั้นจนหลายสัปดาห์ต่อมา  ชินปฏิรูปอาหารการกินใหม่หมด  และรักษาตัวอย่างเคร่งครัด กิจวัตรที่เขารอคอยคือ  การขึ้นไปรับแสงอาทิตย์ยามรุ่
-    3    -
ขึ้นในเทือกเขาแอลป์ของญี่ปุ่น  ชินลงแช่น้ำพุร้อน  กินอาหารบำรุงจากธรรมชาติ
            “อากาศบริสุทธิ์และน้ำสะอาดหล่
            ทุกวันนี้ชิน เทรายามา  มิได้เป็นเพียงชายผู้รอดชีวิ
            “คุณต้องยอมรับมะเร็งนะ”  เขาแนะนำผู้ป่วยมะเร็ง  “มันก็เป็นเสมือนของขวัญที่ชี้
            แพทย์หลายคนคงไม่เห็นด้วยว่
            “ผมจึงต้องรักมะเร็งในตัวผม  เลิกย่ำยีบีฑาเหมือนกับมันเป็
            นี่ละครับ  การยอมรับตัวตนอันแท้จริง  คนเราส่วนมากไม่ใคร่จะยอมรับหรื
            “ดังสายน้ำลัดเลาะหลีกศิ
            การยอมรับ  จำนน  หรือจนมุม  ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้คำใดก็ตาม  ทุกอย่างคือการเปลี่ยนจุดยื
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น