เคยมีคำทำนายเกี่ยวกับเนื้อคู่ ของหลวงปู่แหวน เมื่อสมัยที่เรียนมูลกัจจายน์ที ่จังหวัดอุบลราชธานี ได้มีหมอดูทำนายว่าเนื้อคู่ ของท่าน
จะมีรูปร่างสันทัด ผิวเนื้อขาวเหลือง ใบหน้ารูปใบโพธิ์ แต่ท่านก็ไม่ได้สนใจอะไร
ด้วยชีวิตนี้ท่านได้อุทิศทั้งชี วิตเพื่อพระศาสนาแล้ว
จึงขอกล่าวถึงข้อความตอนหนึ่ งในหนังสืออนุสรณ์หลวงปู่แหวน
เกี่ยวกับในช่วงที่จิตของท่านนึ กเห็นแต่หน้าของหญิงนางนั้น
ที่สุดท่านก็ได้บังคับจิตของท่ านให้หลุดออกจากห้วงนั้น
โดยใช้อุบายธรรมพิจารณาเหตุ ผลในทีละอย่าง
จนท่านก็ประสบความสำเร็จ เนื้อความในหนังสือที่ยกมากล่ าวอ้างนี้ความว่าวันหนึ่ง หลวงปู่แหวนได้มาพักบำเพ็ญอยู่ ที่บ้านนาสอง เป็นหมู่บ้านที่ใหญ่พอสมควร
พวกชาวบ้านถิ่นนั้นมีแปลกอยู่ อย่างคือ
เวลาเห็นพระไปบิณฑบาต พวกเขาจะป่าวร้องกันมาใส่บาตรว่ า
“มาเน้อมาใส่บาตร ญาธรรมมาแล้ว
หาน้ำอ้อยน้ำตาลมาใส่บาตร ญาธรรมมาแล้ว ท่านชอบของหวาน”
เมื่อได้ยินคนร้องประกาศเช่นนั้ น ต่างก็เอาของมาใส่บาตรจนเต็ม
พวกนี้เหมือนกับพวกไทยใหญ่ ไทยใหญ่ถ้าเห็นพระไปบิณฑบาต
เขาจะใส่บาตรด้วยน้ำอ้อยน้ ำตาลกับข้าวเช่นกัน พวกเขาถือว่าเจ้บุ๊นไม่กินเนื้ อสัตว์
กินแต่ของหวาน แต่อย่างไรก็ตาม การฉันข้าวกับน้ำอ้อยน้ำตาลนั้ นวันสองวันแรกก็ฉันได้ ดี แต่วันที่สามที่สี่รู้สึกเบื่อ
วันหนึ่งใกล้ค่ำได้ไปสรงน้ำที่ แม่น้ำงึม มีหญิงสองคนแม่ลูกถ่อเรื อมาตามลำน้ำงึม
ถึงที่พระกำลังสรงน้ำอยู่ ก็ชำเลืองตามาทางพระหนุ่ม
เมื่อสายตาของทั้งฝ่ายประสานกั นเข้า ก็มีอานุภาพลึกลับและรุนแรงพอที ่จะตรึงคนทั้งสองฝ่าย ให้ตะลึงไปได้
ระหว่างทางที่เดินกลับที่พั กในใจยังคิดถึงหญิงงามนั้นอยู่
เมื่อมาถึงที่พัก
จึงกลับได้สติหวนระลึกถึ งคำนายของหมอดูเมื่อครั้งเรี ยนมูลกัจจายน์อยู่เมืองอุบล ที่ทำนายว่า
“เนื้อคู่ของท่านอยู่ทางทิศนี้ รูปร่างสันทัด ผิวเนื้อขาวเหลือง ใบหน้าเหมือนใบโพธิ์”
หญิงที่เราพบเห็นเมื่อตอนเย็นก็ มีรูปร่างหน้าตาเหมือนกั บคำทำนายของหมอดู เห็นจะเป็นหญิงคนนี้แน่
เพราะเมื่อเราเห็นเป็นครั้ งแรกก็ทำให้เรามีจิตแปรปรวนแล้ว จึงตัดสินใจเดินทางกลับไทย
เมื่อข้ามมายังฝั่งไทยได้ขึ้ นไปทางอำเภอศรีเชียงใหม่
ไปพักอบรมตนอยู่ที่พระบาทเนินกุ ่มใหม่ ไปพักอยู่ที่พระบาทเนินกุ่ มหมากเป้ง
ณ ที่นั้นได้พบกับหลวงปู่มั่น ภูริทฺตโต ซึ่งท่านได้ปลีกตัวออกจากหมู่ คณะ
มาภาวนาอยู่บริเวณนั้น เมื่อได้พบกับอาจารย์อีก จึงดีใจมาก
การพักอบรมตนอยู่กับหลวงปู่มั่น ก่อนเข้าพรรษาทำให้จิตสงบลง ไม่ฟุ้งซ่านเหมือนก่อน
แต่ภาพของหญิงงามนั้นยังปรากฏขึ ้นเป็นครั้งคราว แต่เมื่อเร่งภาวนาเข้าภาพนั้นก็ สงบลง
หลังจากเข้าพรรษาแล้ว ตั้งใจปรารถความเพียรอย่างเต็ มที่
การเร่งความเพียรในระยะแรก จิตที่ยังไม่มีอะไรมาวุ่ นวายคงสงบตัวได้ง่าย
มีอุบายทางปัญญาพอสมควรเมื่อเร่ งความเพียรหนักเข้าเอาจริงเอาจั งเข้า กิเลส ก็เอาจริงเอาจังกับเราเหมือนกัน
คือแทนที่จิตจะดำเนินไปตามที่ เราต้องการ กลับพลิกไปหานางงามที่บ้านนาสอง ฝั่งแม่น้ำงึมนั้นอีก
จะมีรูปร่างสันทัด ผิวเนื้อขาวเหลือง ใบหน้ารูปใบโพธิ์ แต่ท่านก็ไม่ได้สนใจอะไร
ด้วยชีวิตนี้ท่านได้อุทิศทั้งชี
จึงขอกล่าวถึงข้อความตอนหนึ่
เกี่ยวกับในช่วงที่จิตของท่านนึ
ที่สุดท่านก็ได้บังคับจิตของท่
โดยใช้อุบายธรรมพิจารณาเหตุ
จนท่านก็ประสบความสำเร็จ เนื้อความในหนังสือที่ยกมากล่
พวกชาวบ้านถิ่นนั้นมีแปลกอยู่
เวลาเห็นพระไปบิณฑบาต พวกเขาจะป่าวร้องกันมาใส่บาตรว่
“มาเน้อมาใส่บาตร ญาธรรมมาแล้ว
หาน้ำอ้อยน้ำตาลมาใส่บาตร ญาธรรมมาแล้ว ท่านชอบของหวาน”
เมื่อได้ยินคนร้องประกาศเช่นนั้
พวกนี้เหมือนกับพวกไทยใหญ่ ไทยใหญ่ถ้าเห็นพระไปบิณฑบาต
เขาจะใส่บาตรด้วยน้ำอ้อยน้
กินแต่ของหวาน แต่อย่างไรก็ตาม การฉันข้าวกับน้ำอ้อยน้ำตาลนั้
วันหนึ่งใกล้ค่ำได้ไปสรงน้ำที่
ถึงที่พระกำลังสรงน้ำอยู่ ก็ชำเลืองตามาทางพระหนุ่ม
เมื่อสายตาของทั้งฝ่ายประสานกั
ระหว่างทางที่เดินกลับที่พั
เมื่อมาถึงที่พัก
จึงกลับได้สติหวนระลึกถึ
“เนื้อคู่ของท่านอยู่ทางทิศนี้ รูปร่างสันทัด ผิวเนื้อขาวเหลือง ใบหน้าเหมือนใบโพธิ์”
หญิงที่เราพบเห็นเมื่อตอนเย็นก็
เพราะเมื่อเราเห็นเป็นครั้
เมื่อข้ามมายังฝั่งไทยได้ขึ้
ไปพักอบรมตนอยู่ที่พระบาทเนินกุ
ณ ที่นั้นได้พบกับหลวงปู่มั่น ภูริทฺตโต ซึ่งท่านได้ปลีกตัวออกจากหมู่
มาภาวนาอยู่บริเวณนั้น เมื่อได้พบกับอาจารย์อีก จึงดีใจมาก
การพักอบรมตนอยู่กับหลวงปู่มั่น ก่อนเข้าพรรษาทำให้จิตสงบลง ไม่ฟุ้งซ่านเหมือนก่อน
แต่ภาพของหญิงงามนั้นยังปรากฏขึ
หลังจากเข้าพรรษาแล้ว ตั้งใจปรารถความเพียรอย่างเต็
การเร่งความเพียรในระยะแรก จิตที่ยังไม่มีอะไรมาวุ่
มีอุบายทางปัญญาพอสมควรเมื่อเร่
คือแทนที่จิตจะดำเนินไปตามที่
ทีแรกได้พยายามปราบด้วยอุบายต่
ยิ่งกำเริบหนักเข้าไปอีก
เผลอไม่ได้เป็นต้องหาหญิงนั้นทั
คือขณะที่คิดอุบายการพิจารณาอยู
อุบายการปฏิบัติวิชาต่างๆ ที่นำมาใช้ในการทรมานจิตในครั้
เว้นการนอนเสีย มีเฉพาะเวลานั่ง ยืน เดิน ทำอยู่เช่นนั้นหลายวันหลายคืน
คอยจับดูจิตว่ามันคลายความรั
จิตยังคงวิ่งออกไปหาหญิงงามอยู่
ต่อมาเพิ่มไม่นั่งไม่นอน มีแต่ยืนกับเดิน
ทำความเพียรอยู่อย่างนี้จิตมั
คราวนี้เปลี่ยนวิธีใหม่เปลี่
คราวนี้เพ่งเอากายของหญิงนั้น
เป็นเป้าหมายในการพิ
โดยแยกยกพิจารณาทีละอย่
พิจารณาให้เห็นถึงความเป็นจริ
ทำไมจะต้องไปรักไปหลง ไปคิดถึง เพ่งพิจารณาทีละส่วนๆ
พิจารณาอยู่อย่างนั้นทั้งกลางวั
การพิจารณาจนละเอียดอย่างไรขึ้
ตอนหนึ่งพิจารณามาถึงหนังได้
ถ้าถลกหนังออก อวัยวะทุกส่วนก็หาส่วนที่น่าดู
ไม่มีส่วนไหนที่จะถือว่าเป็
พลันก็ยอมรับตามความจริง ตามเหตุผลของปัญญา
ยอมตัวอย่างนักโทษผู้สำนึกผิด ยอมสารภาพถึงการทำตนแต่โดยดี
ฉะนั้น นับแต่วินาทีการพิจารณาได้ยุติ
เพื่อเป็นการทดสอบว่า “จิตยอมแล้ว” จึงได้ส่งจิตออกไปหาหญิงนั้
จิตคงสงบตัวไม่ยอมออกไป ความกำเริบความทรนงตัว ความโลดโผนของจิต
จึงถึงความสงบลงตั้งแต่บัดนั้
จิตคงทรงเห็นตามสภาพความเป็นจริ
Email : Dong
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น