03 สิงหาคม 2555

รับหน้าฝน กับ 7 เคล็ด(ไม่)ลับ ใช้รถปลอดภัยสบายกระเป๋า


โดย ผู้จัดการออนไลน์
.







              นายชวลิต พิชาลัย ผู้อำนวยการสำนักวิเคราะห์แผนพลังงาน 
สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า 
ตอนนี้เข้าหน้าฝนแล้ว ซึ่งฝนตกทีไรทำให้การจราจรที่ติดขัดอยู่แล้ว ยิ่งติดขัดมากขึ้น 
โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนี้น้ำมันมีราคาแพงจึงจำเป็นต้องมีการวางแผนการเดินทางล่วงหน้
และขับขี่รถด้วยความระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อช่วยประหยัดน้ำมันและเพิ่มความปลอดภัย
ในการขับขี่ สนพ. ขอแนะนำ เคล็ดวิธี ใช้รถอย่างปลอดภัยและสบายกระเป๋าหน้าฝนนี้
       

       
1. ตรวจเช็คเครื่องให้พร้อมก่อนเดินทาง ก่อนเดินทางทุกครั้งควรตรวจเช็คเครื่องยนต์ เป็นประจำ 
ยิ่งช่วงหน้าฝนยิ่งควรตรวจเช็คเป็นพิเศษ เพราะหากรถดับหรือเสียระหว่างทาง ทำให้เสียเวลา
และทำให้การจราจรติดขัดยิ่งขึ้น โดยสิ่งที่ควรตรวจตราเป็นพิเศษ อาทิระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่ ถ้าน้ำแห้ง
 แบตเตอรี่ไม่ทำงานจะสตาร์ทรถไม่ติด


       2. เช็คผ้าเบรก หน้าฝนถนนลื่น มักต้องแตะเบรกบ่อยกว่าปกติ จึงควรสังเกตจากเสียงขณะเบรก 
หรืออาการเบรกแล้วรถไม่หยุดในระยะปกติ ควรรีบเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่เพราะการที่ผ้าเบรกเสื่อม เสียดสี
จานล้ออยู่เสมอ จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันประมาณวันละ 400 ซีซี
     
       
3. เช็คลมยางและสภาพยาง สภาพยางที่อ่อนหรือแข็งกว่ามาตรฐานจะทำให้การทรงตัวของรถ
ในหน้าฝนลำบากกว่าปกติ จึงควร ใส่ใจตรวจเช็คความดันลมยางอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง 
เพราะหากความดันลมยางต่ำกว่ามาตรฐานทุก ๆ ปอนด์ต่อตารางนิ้ว จะเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 2% นอกจาก
นี้สภาพยางที่สึกหรอมากทำให้รถเบรกไม่ค่อยอยู่ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน


    4. หลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลาฝนตก เป็นที่ทราบกันดีว่าฝนตกทีไร มักจะทำให้รถติดทุกครั้ง
 ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการดินทางในช่วงฝนตก แล้วลองเปลี่ยนมาใช้การติดต่อกันทางโทรศัพท์ โทรสาร 
จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ดูบ้าง หรือหากหลีกเลี่ยงการเดินทางไม่ได้ ก็ควรหันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะ
 เช่น รถไฟฟ้า BTS หรือ รถไฟฟ้าให้ดิน ที่จะเปิดให้บริการในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งทางการะทรวงพลังงาน
ได้จัดเตรียมความพร้อมให้กับผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะด้วยการขยายพื้นที่จอดรถบริเวณหมอชิต- บางซื่อ 
เป็น Park & Ride รองรับรถกว่า 3,700 คัน ซึ่งการเปลี่ยนการเดินทางจากรถยนต์มาใช้บริการขนส่งสาธารณะ 
จะสะดวกและประหยัดน้ำมันกว่า เพราะหากรถติดแบบไม่ขยับรวมกันเป็นเวลา 30 นาที จะทำให้สูญเสียน้ำมัน 
750 ซีซี. คิดเป็นเงิน 13.50 บาท


       5. วางแผนให้พร้อมสำหรับการเดินทาง เมื่อจำเป็นต้องเดินทางในช่วงฝนตกการเตรียมข้อมูลให้
พร้อมสำหรับการเดินทาง ก็เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเลือกเส้นทางที่ใกล้ที่สุดหรือใช้
เวลาน้อยที่สุด และศึกษาเส้นทางลัดของเส้นทางที่จะไปโดยตรวจสอบเส้นทางการจราจรได้จากรายการ
วิทยุ สวพ.91 จส.100 หรือ สอบถามเส้นทางการจราจรได้ที่โทร 1197 เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางที่การจราจรติดขัด
 และควรเตรียมหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อของหน่วยงานบริการช่วยเหลือ กรณีรถเสียหรือดับระหว่างทาง 
อาทิสถานีวิทยุชุมชน ร่วมด้วยช่วยกัน 1167 เพื่อป้องกันการกีดขวางทางจราจร อันจะให้รถติด สิ้นเปลืองน้ำมันและเสียเวลา
     
       
6. ลดการใช้แอร์ในรถ ช่วงหน้าฝน อากาศช่วงเช้าและช่วงเย็นมักจะไม่ค่อยร้อนแนะนำให้ทดลองปิ
แอร์แล้วสูดอากาศธรรมชาติบ้าง และหากปิดแอร์ก่อนถึงที่หมาย 2-3 นาที จะประหยัดน้ำมันได้ 30 ซีซี 
แต่หากไม่ใช้แอร์เลยตลอดการเดินทาง 20-30นาทีจะประหยัดน้ำมันได้ 300 ซีซี

       7. ไม่ใช้ความเร็วสูง ช่วงฝนตกการจราจรมักจะติดขัดอยู่เสมอ แต่หากปริมาณรถบนถนนไม่หนาแน่น 
สามารถทำความเร็วได้ ก็ไม่ควรขับรถด้วยความเร็วสูงจนเกินไปนักเพราะถนนช่วงฝนตกจะลื่นกว่าปกติ อาจทำ
ให้รถเสียหลักเกิดอุบัติเหตุได้ และที่สำคัญการขับขี่รถยนต์ในอัตราความเร็วที่เหมาะสมจะช่วยประหยัดน้ำมันได้
     
       ทั้งนี้ สนพ. ได้จัดทำคู่มือ รวมพลังหยุดรถซดน้ำมัน” ซึ่งรวบรวมวิธีการประหยัดน้ำมันหลากหลายวิธี 

แจกให้กับผู้ใช้รถ ผู้ที่สนใจสามารถขอรับคู่มือได้ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์รวมพลังหาร โทรศัพท์  0 2612 7555 
ต่อ 204-5 หรือบริการตอบรับอัตโนมัติสายด่วนหาร หรือสามารถ download คู่มือได้ที่ www.eppo.go.th

เครดิต : Dong

ไม่มีความคิดเห็น: