ขยันมองด้านดีของคนอื่นจะเห็นวิ ธีเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส
เอาแต่เพ่งโทษชาวบ้านจะติดนิสัความสามารถในการเห็นวิธีเปลี่
ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นด้
คุณจำเป็นต้องฝึกเปลี่
ให้กลายเป็นความคึกคักที่จะแก้
หรือสามารถเปลี่ยนการเล็งแลแต่
ให้กลายเป็นนิยมเล็งแลในสิ่งที่
มุมมองดีๆมาจากไหน?
เรามองคนอย่างไรโดยมาก
ก็มองเหตุการณ์ทั้งหลายตามนั้น
สังเกตดูเถอะครับ มีพวกชอบเพ่งโทษที่ไหน
ที่เป็นนักแก้ปัญหา นักคลี่คลายเรื่องร้ายให้
พวกชอบเพ่งโทษคนอื่นนั้น พอเจอปัญหาขึ้นมา
ก็จะมองผลลัพธ์ในแง่ร้ายไว้ก่อน
แล้วก็จะหาคำด่าคนทำผิดไว้ก่อน
ซึ่งอาการเช่นนั้นของจิต
คงไม่เหมาะกับการสร้างอารมณ์บวก
และไม่มีแก่ใจเอาประโยชน์
ฝึกมองให้เห็นค่าของคนที่คุณไม่
ฝึกมองแง่ดีของคนที่คุณเกลียด
ฝึกมองรอยยิ้มของศัตรูให้เกิ
จะพบว่าพอเวลาผ่านไป
ใจจะสามารถแปรอารมณ์ลบให้
และฝึกมองคนไว้อย่างไร
ใจก็จะตอบรับกับสถานการณ์
คุณจะกลายเป็น ‘นักสังเกตข้อดี’
พอรู้ตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองรู้
ของเรื่องแย่ๆที่เกิดขึ้นได้เกื
ต้องใคร่ครวญบ้าง เป็นอัตโนมัติบ้าง
หากหาข้อดีภายนอกไม่พบจริงๆ
อาจลองสำรวจโอกาสที่ภายในดูบ้าง
ของหาย แต่ใจไม่หาย ก็ได้รู้สึกว่าใจเราเป็นใจที่ดี
คนหาย แต่ใจไม่หาย ก็รู้สึกว่าใจเป็นที่พึ่งของตั
ถ้าใจยังไม่ถึง ก็จะได้เป็นโอกาสพยายามทำให้ถึง
บางทีการได้พบกับใจที่ปล่
อาจเป็นข้อดีที่สุดที่คุณจะพบ
ในท่ามกลางเรื่องร้ายทั้
ดังตฤณ
กรกฎาคม ๕๕
เครดิต :Dong
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น