การศึกษาใหม่ อ้างว่า : การติดอินเทอร์เน็ตทำให้เกิ ดสมาธิสั้นและภาวะซึมเศร้าในวั ยรุ่น
การติดอินเทอร์เน็ตเป็นจุดอ่ อนของเด็กและวัยรุ่นที่มีปั ญหาภาวะด้านอารมณ์ จากการสำรวจครั้งใหม่ นักเรียนเกรด 7 ของประเทศไต้หวัน มีความประพฤติหรือแนวโน้มที่ จะติดอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นร้ อยละ 10.8 หรือ 2,293 ราย
นักวิจัยประเทศไต้หวัน ติดตามผลของเด็กในระยะเวลา 2 ปี พบว่า เด็กที่มีสมาธิสั้นและก้าวร้ าวสามารถติดอินเทอร์เน็ตได้ง่ ายกว่าเด็กที่ชอบใช้พลังงาน วิ่ง เล่น รวมถึงพวกที่ไม่นิยมออนไลน์
ในเด็กผู้หญิงโดยเฉพาะเด็กที่ขี ้อาย หรือหวาดกลัวสังคมจะทำให้ติดอิ นเทอร์เน็ตเพิ่มง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม เด็กผู้ชายจะมีความเสี่ยงสูงกว่ าเด็กผู้หญิง ถ้าพวกเด็กๆ ใช้อินเตอร์เน็ตเกินกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
แถบเอเชียมีความกังวลเกี่ยวกั บเรื่องนี้มากกว่าสหรัฐอเมริกา โลกอินเทอร์เน็ตกลายมาเป็นปัจจั ยสำคัญที่ขาดไม่ได้ ในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว สังคมเราควรจะเริ่มต้นทำอะไรจริ งจังกับเรื่องนี้ แทนที่จะปล่อยให้อินเทอร์เน็ ตกลายมาเป็น พี่เลี้ยงเด็กในรุ่นนี้ต่อไป.
การศึกษา : "โรคคลั่ง-ดิจิตอล" เป็นอุปสรรคต่อทักษะทางสั งคมของเยาวชน
FaceTime โปรแกรมแอปเปิ้ล วิดีโอแชท, ไม่ได้เป็นตัวแทนของการโต้ ตอบของมนุษย์เท่านั้น โดยเฉพาะ เยาวชนตามหลักสูตรการศึกษาใหม่ หญิงวัยรุ่นที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ <ช่วงกลางวัน> หมดไปกับ YouTube, Facebook, โทรทัศน์ และ Text การส่งข้อความ มีแนวโน้มที่จะพัฒนาปัญหาทางสั งคมเพิ่มขึ้น
งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสแตนท์ฟอร์ด มีการสำรวจของอาสาสมัครผู้หญิ งอเมริกัน 3,461 คน ผลที่ได้ คือ หญิงสาวที่มีอายุระหว่าง 8 ถึง 12 เป็นกลุ่มที่ใช้เวลามากที่สุ ดในที่สามารถทำงานหลายอย่างหรื อใช้สื่อดิจิตอล อาทิ อุปกรณ์ดิจิตอลต่างๆ การสื่อสารออนไลน์ หรือ ดูวิดีโอที่ไม่มีสาระมากนัก ไปพร้อมๆกันได้
แม้ว่าการศึกษาครั้งนี้ จะเป็นการศึกษาโดยเฉพาะผู้หญิ งที่ตอบสนอง ต่อการสํารวจในการค้นพบจาก "นิตยสารหญิง" แต่ก็มีความเห็นว่าผลที่ได้ ควรจะนำไปใช้กับเด็กผู้ชายด้วย นาย คริปฟอร์ด เนสส์ ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัย สแตนท์ฟอร์ด ด้านการสื่อสาร ที่ทำงานในการศึกษาใหม่ กล่าวว่า "การพัฒนาทางอารมณ์ ของเด็กผู้ชาย เป็นเรื่องยากมากในการวิเคราะห์ เพราะการพัฒนาทางสังคม เพศชายจะแตกต่างกัน, กว้างขวางและในช่วงเวลาที่ นานกว่า "
"ไม่มีใครเคยมองจุดนี้ ซึ่งน่าตกใจต่อเราซึ่งเป็นกลุ่ มผู้ชาย" มาก เนสส์ กล่าวว่า : "เด็กต้องเรียนรู้เกี่ยวกั บอารมณ์และวิธีที่พวกเขาต้ องทำนั้นคือ การให้ความสนใจกับคนอื่น ๆ และจะต้องมองพวกเขาเข้ าไปในสายตา."
การแก้ไขสำหรับปรากฏการณ์ คลั่ง- ดิจิตอล สำหรับเด็กคือ ต้องใช้เวลาพูดคุยโต้ตอบแบบ ตัวต่อตัวกับคนอื่นๆ การศึกษาใหม่พบว่า : กลุ่มวัยรุ่นในการศึกษาที่ ประจำอยู่ได้พูดคุยกับเพื่ อนและครอบครัวบ่อยๆ มีโอกาสน้อยที่จะแสดงปัญหาสังคม แต่หาก "คุณหลบหนีการสื่อสารแบบตัวต่ อตัว, คุณไม่ได้เรียนรู้สิ่งที่สำคั ญที่คุณต้องเรียนรู้" เนสส์ กล่าวว่า : "คุณต้องเรียนรู้ทักษะทางสังคม. คุณต้องเรียนรู้เกี่ยวกับอารมณ์ ความรู้สึก."
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยมหาวิทยาลัยสแตนท์ฟอร์ด ยังไม่สามารถที่จะกำหนดจำนวนชั่ วโมงที่เหมาะสม ซึ่งเด็กควรจะใช้เวลาสนทนาต่อสั ปดาห์ เนสส์กล่าวว่า : ทักษะทางสังคมมักจะเรียนรู้ เฉพาะเมื่อเด็กมีส่วนร่ วมและการติดต่อ ,มองตากันและกันมากกว่า ที่เล่นกับ iPod ได้ในระหว่างการสนทนา FaceTime และ Skype จะไม่สามารถแทนที่ได้กับ การแสดงอากัปกิริยาบนใบหน้าที่ แท้จริง เพราะมีการสำรวจอื่น ๆ พบว่าผู้คนมีแนวโน้มที่ จะทำงานหลากหลายอย่างในขณะที่ อยู่ในการสนทนานั้น เนสส์กล่าว
เนสส์ เรียกตนเองว่าเป็นนักเทคโนโลยี มา25 ปี เป็นที่ปรึกษากับหลาย บริษัท อิเล็กทรอนิกส์ ที่สำคัญรวมทั้ง Google และ Microsoft เขากล่าวว่าเขาไม่พอใจกั บสถานการณ์นี้อย่างมาก
ไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนสส์ ทำงานเกี่ยวกับการศึกษา : เกี่ยวกับวิธีการทำงานแบบ "หลายอย่างในเวลาเดียวกัน" ยังส่งผลกระทบต่อผู้ใหญ่ เขาพบว่าการทำงานหลายอย่ างในเวลาเดียวกัน ประสบปัญหาอย่างมากกับความรู้ ความเข้าใจ เช่นความยากลำบากในการมุ่งเน้น และการจดจำ เป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างยิ่งที่ ทำเป็นเล่นกับกิจกรรมต่างๆ กับทักษะที่สำคัญอย่างยิ่ง ต่อชีวิตการทำงานของมุนษย์ มากกว่าผู้ที่ใช้เวลาน้อยกว่ าในการทำอะไรน้อยอย่าง
Source : cnn.com
Credit : Dong
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น