23 สิงหาคม 2555

วิธีทำตัวให้น่ารัก


ภาพในบรรทัด 1

(1)  ยิ้ม 

ตื่นขึ้นมา... ให้ส่องกระจก ยิ้มให้ตัวเองก่อน คนอื่นจะยิ้มให้เราหรือไม่... ไม่เป็นไร แต่เราควรฝึกยิ้มน้อย ๆ ให้ตัวเองทุกครั้งที่ส่องกระจก เพราะยิ้มเป็นคุณสมบัติแรกของคนน่ารัก

เวลาพบใคร... ให้สบตา ยิ้มหน่อย และควรเป็น "ยิ้มที่ไม่หวังยิ้มตอบแทน" เพราะวันนี้...อาจจะเป็นวันที่ไม่ค่อยดีสำหรับคนอื่น (bad day) ก็ได้ เช่น คนที่เรายิ้มให้อาจจะไม่ถูกหวย ปวดหัว หรือมีอาการวัยทองแฝงเร้นอยู่ภายใน ฯลฯ

ถ้าเขินที่จะยิ้ม... ให้ "แย้ม" หรือยิ้มนิด ๆ แทน


(2) ทักทาย

อาจารย์ ท่านแนะนำให้หัดกล่าว 'hello (ฮัลโหล)' หรือ 'hi (ฮาย)' เวลาทักท่านไม่ให้ "ทักแต่ปาก" ทว่า... ให้โบกไม้โบกมือ หรือพนักหน้าไปด้วย เพื่อแสดงความหนักแน่น

คนไทยหรือคนเอเชียมีวัฒนธรรมที่ต่างจากฝรั่ง ไม่กล่าวฮัลโหลก็ไม่เป็นไร ขอให้ทักทายอะไรคนอื่นก่อนสักอย่าง ไหว้ก็ได้ฮัลโหลก็ดี (ตามสมควร)


(3) ถามคนอื่นว่า "(เขาหรือเธอ) ทำอะไรอยู่เหรอ"

การถามแบบนี้ไม่ได้มุ่งหวังคำตอบ เพียงแต่ถามเพื่อทักทาย คล้าย ๆ กับที่คนไทยและชาวพม่าชอบถามว่า "สบายดีไหม" หรือคนจีนชอบถามว่า "กินข้าวแล้วยัง"

การยิ้มให้และไม่พูดอะไรเลยอาจ ทำให้อีกฝ่าย หนึ่งอึดอัดได้... การพูดแบบนี้เรียกว่า "การพูดละลายน้ำแข็ง (Break the ice. = การพูดเพื่อเปิดตัว รู้จักกัน ทักทายกัน หรือทำลายกำแพงของความเงียบและความไม่รู้จักกัน)


(4) เป็นนักฟังที่ดี 

ไม่ว่าอีกฝ่ายจะร้ายหรือดีเพียงไร คนน่ารักมักจะตั้งใจรับฟัง... ถ้าไม่อยากรับฟังนานเกินก็อาจ "ขอตัว" เช่น กล่าวว่า ขอตัวไปซื้อกับข้าว ฯลฯ

คนน่ารักส่วนใหญ่จะไม่พูดเรื่องที่ตัวเองสนใจมาก ทว่า... จะรับฟัง หรือเชิญอีกฝ่ายให้พูดเรื่องที่ (อีกฝ่าย) สนใจ และไม่ "ขัดคอ" ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ


(5) สุภาพอ่อนน้อม 

อาจารย์ท่านแนะนำให้พูดคำต่อไป นี้บ่อย ๆ ได้แก่ 'please = ได้โปรด กรุณา' , 'thank you = ขอบคุณ ขอบใจ' , 'You are welcome. = ยินดีต้อนรับ' , 'sir = ท่าน (ผู้ชาย)' , 'madam' หรือ 'ma'am = แมม / ท่าน (ผู้หญิง)' , 'Excuse me = ขอโทษ (เช่น เวลาขอทางเดิน ฯลฯ)' , 'sorry = เสียใจ (ใช้แทนคำขอโทษได้)'

คนน่ารักมักจะมีลักษณะสำคัญได้แก่ 'Be patient, observant and considerate' ได้แก่ "อดทน ช่างสังเกต (ความรู้สึกของคนอื่น ไม่เฉยเมยต่อความรู้สึกของคนรอบข้าง) และมีน้ำใจ"


(6) มองด้านบวก มองโลกในแง่ดี 

อาจารย์ท่านแนะนำว่า อย่ามองด้านร้าย (negative) และ (เป็นคน) ชอบวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น (critical)

ทางที่ดีคือ ให้ฝึกมองโลกในแง่ดี กล่าวชมการทำดีของคนอื่นอย่างน้อย วันละ 1 ครั้ง และ 'Cheer them up' = เชียร์ๆๆๆๆ (คนอื่น) เช่น เห็นใครเขียนบล็อกดี... อย่านิ่งดูดาย ให้เขียนขอบคุณ ขอบใจ หรือให้กำลังใจ เช่น โหวตลงคะแนนให้ (เว็บไซต์บางแห่งมีระบบลงคะแนนให้บล็อกเกอร์) ฯลฯ


(7) อ่อนน้อมถ่อมตน 

หลักสำคัญในการเป็นคนน่ารักคือ จำไว้ว่า คุณไม่ได้ "ดีไปกว่า" คนอื่น

ความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นประจำทำให้ทุกคนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง "รู้สึกดี" คัมภีร์ท่านกล่าวว่า เมตตานั้น... อานิสงส์ (= กำไร) แรกที่จะได้คือ ตัวเอง ความอ่อนน้อมถ่อมตนก็เช่นกัน แท้จริงแล้วคนที่อ่อนน้อมได้นั่นละจะยิ่งใหญ่มาจากภายใน


(8) เต็มใจให้ความช่วยเหลือ

แสดงความช่วยเหลืออย่างเต็มใจ เช่น เห็นคนอื่นถือของหนักอาจขอเข้าไปช่วยถือให้ ฯลฯ อาจารย์ท่านแนะนำว่า คุณเป็นคนน่ารักของชุมชน (หรือสังคม) และโลกได้ด้วยการทำงานอาสาสมัคร


(9) จริงใจ 

อาจารย์ท่านแนะนำว่า อย่าทำตัวเป็นคนน่ารักเพียงเพื่อ หวังจะประจบสอพลอ หรือทำตัวประเภท "น่ารักหวังผล (ตอบแทน)" ทว่า... ขอให้เราจริงใจ และทำไปเพราะเห็นว่า เรื่องนี้ดี และความเป็นคนน่ารักทำให้ชีวิตของทุกคนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดีขึ้น


(10) อย่า "ทำ ๆ หยุด ๆ"

คนที่น่ารักส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีความสม่ำเสมอ (consistency) ไม่ใช่คนประเภท "3 วันดี 4 วันไข้" หรือ "ผีเข้าผีออก"

ความน่ารักอยู่ที่ความสม่ำเสมอ และไว้ใจได้ (reliable) เพราะฉะนั้น... ถ้าอยากเป็นคนน่ารักก็ต้องทำตัวให้ดีเสมอต้นเสมอปลาย 

ไม่มีความคิดเห็น: